คลิกครับ
“กษัตริย์จิกมี” ทรงจุมพิตพระโอษฐ์สมเด็จพระราชินีเจ็ตซันอย่างดูดดื่มหวานชื่น
และหอมพระปรางทั้งสองข้างต่อหน้าพสกนิกรภูฏานหลายหมื่นคนที่มาเฝ้าชมพระบารมีในสนามกีฬาชางลิงตัน
กรุงทิมพู เมื่อวันที่ 15 ต.ค.
โลโก้ฟิสิกส์ราชมงคลกับเจ้าชายและเจ้าหญิง
งานพิธีอภิเษกสมรสของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี
เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฎาน เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา
ในคลิปนี้จะได้เห็นรอยยิ้มของนางสาวเจ็ตซัน เปมา พระชายา
ที่เราไม่ค่อยเห็นอีกด้วย แล้วจับตาดีๆว่า มีใครในคลิปนี้
เทพนิยายแห่งรัก'ราชา - สามัญชน'ภูฏาน
อีก 1 ความสนใจของคนไทย และปลื้มปีติยินดีที่แม้จะไม่ได้เกิดขึ้นในเมืองไทย
หรือเป็นชนเชื้อสายไทยก็ตาม
แต่กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏานองค์นี้ก็ได้สร้างความประทับใจให้กับคนไทยเมื่อครั้งที่เสด็จมาเป็นพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี
อยู่ไม่น้อย...
ข่าวคราวของมกุฎราชกุมารแห่งภูฏานเมื่อครั้งเสด็จมาเมืองไทยเมื่อครานั้น
ยังคงเป็นที่จดจำของคนไทย และสื่อต่างๆ
ก็เฝ้าติดตามจนกระทั่งถึงวันที่พระองค์ขึ้นครองสิริราชสมบัติต่อจากพระราชบิดา
กษัตริย์หนุ่มแห่งภูฏานผู้นี้ นอกจากจะมีพระสิริโฉมที่งดงาม
และมีมาดสุขุมนุ่มนวลแล้ว พระองค์ยังเป็นผู้ที่ใฝ่รู้
และมุ่งมั่นกับหน้าที่ของการดูแลประชาชนที่พระองค์ต้องปกครอง
แต่ถึงกระนั้นพระองค์ก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป
เช่นเดียวกับเรื่องความรักที่พระองค์เองนั้นรู้สึก
ซึ่งหญิงสาวที่สามารถมัดหัวใจพระราชาหนุ่มองค์นี้ได้ก็คือ เจตซุน เพมา
สาวสามัญชนที่กำลังจะเป็นเจ้าหญิงคนใหม่แห่งราชวงศ์วังชุก
รู้จักกับว่าที่ราชินีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน
'นางสาว เจตซุน เพมา' หญิงสาวในวัย 20 ปี เป็นบุตรคนที่ 2 จากพี่น้อง 5
คนของนายโทนทับ ดียัลเซน กับนางโซนัม สุกี เกิดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2533
ที่กรุงทิมพู ประเทศภูฏาน ในวัยเด็กจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ประเทศภูฏาน
ก่อนเดินทางไปเรียนต่อที่ลอว์เรนซ์ สคูล ในเมืองซานาวาร์ หิมาจัลประเทศ
และที่เซนต์โจเซฟคอนแวนต์ในกาลิมพง ประเทศอินเดีย
หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยนีเจนต์คอลเลจ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
นอกจากเรื่องการศึกษา และสติปัญญาที่หญิงสาวคนนี้มีเพรียบพร้อมแล้ว
นิยายรัก ความประทับใจ พระราชาผู้ยิ่งใหญ่กับสาวสามัญชน
เส้นทางความรักของทั้งสอง สื่อต่างๆ
นั้นต่างเปรียบว่าทั้งสองเปรียบเสมือนคู่ของเจ้าชายวิลเลียม และเคท มิดเดิลตัน
แห่งอังกฤษ เพราะต่างพบรักกับหญิงสาวสามัญชนเหมือนกัน
ขณะที่ความรักของเจ้าชายจิกมีกับนางสาวเจตซุน เพมา ดำเนินไปอย่างราบเรียบ
ความโรแมนติกที่ทั้งสองได้แสดงออกต่อกันก็เริ่มเปิดเผยต่อสาธารณชนให้รับรู้มากขึ้น
ว่าหญิงสาวผู้นี้ คือว่าที่ราชินีที่จะเคียงคู่พระองค์ในอนาคต
พระองค์ก็เริ่มที่จะเผยความในใจที่พระองค์มีต่อหญิงสาวผู้นี้ให้กับสื่อมากขึ้น
ซีนโรแมนติก คู่รักแห่งปีของประเทศภูฏาน
การประกาศหมั้นของทั้งสอง ทำให้ประชาชนชาวภูฏานต่างรู้สึกยินดีอย่างมาก
ฝ่ายของเจ้าชายจิกมีเอง ก็ได้ตรัสถึงว่าที่เจ้าสาวด้วยความชื่นชม
ว่าเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุดด้วยสติปัญญา และเป็นคนที่จิตใจดี
ซึ่งพระองค์ทรงเริ่มรู้จักกัน ตั้งแต่ที่พระคู่หมั้นเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยทิมพู
และตั้งแต่นั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองก็พัฒนามากขึ้น
และเริ่มตามเสด็จไปพบปะประชาชนตามที่ต่างๆ ทั่วประเทศอยู่บ้าง
ความต่างที่ลงตัวระหว่างกษัตริย์จิกมี และพระคู่หมั้น
แม้ว่าทั้งสองจะเกิดมาในครอบครัวที่แตกต่างกัน
อีกคนคือกษัตริย์ที่มีภาระหน้าที่อันใหญ่หลวง ส่วนฝ่ายพระคู่หมั้น
แม้ว่าจะเป็นสามัญชนธรรมดา แต่ก็เกิดมาในตระกูลที่มีฐานะดี
นอกจากนี้ทั้งคู่ยังมีรสนิยมความชอบคล้ายๆ กัน โดยเฉพาะงานศิลปะ จิตรกรรม ภาพวาด
อีกทั้งพระคู่หมั้นของกษัตริย์จิกมียังชื่นชอบการเล่นกีฬาบาสเกตบอลเป็นชีวิตจิตใจ
อีกทั้งยังเต้นระบำพื้นเมืองพันกรา และการเต้นรำแบบตะวันตกอีกด้วย
อีกไม่กี่วันความปลื้มปีติที่จะได้เห็นพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสของทั้งสองก็จะยิ่งมากขึ้น
โดยพิธีจะจัดขึ้นในวันที่ 13 ตุลาคม 2554 ณ เมืองปุนาคา โดยจะจัดอย่างเรียบง่าย
และเป็นตามประเพณีดั้งเดิมของภูฏาน ซึ่งคงนำความสุขมาสู่ทั้งสองพระองค์
และประชาชนทั่วประเทศ
Twitter : Sriploi_social
ไทยร้ฐออนไลน์
รักแท้ที่รอคอย ของ กษัตริย์จิกมีแห่งภูฏาน
แม้ราชอาณาจักรภูฏานจะเป็นเพียงดินแดนเล็กๆบนแผนที่โลก ที่มีประชากรอยู่ 700,000
คน
แต่เรื่องราวความรักที่สุดแสนโรแมนติกระหว่างคู่อภิเษกสมรสคู่ใหม่แห่งเทือกเขาหิมาลัย
“สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก”
กษัตริย์หนุ่มผู้ทรงอ่อนเยาว์ที่สุดในโลก พระชนมพรรษา 31 พรรษา
กับลูกสาวนักบินสายการบินคิงฟิชเชอร์ แอร์ไลน์ส วัย 21 ปี “เจ็ตซัน เปมา”
นักศึกษาปริญญาตรี ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แห่งมหาวิทยาลัยรีเจนท์ส คอลเลจ
ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ได้กลายเป็นตำนานรักบทใหม่ระหว่างกษัตริย์ผู้สูงศักดิ์กับหญิงสาวสามัญชน
ที่ถูกกล่าวขานถึงมากที่สุดทั่วโลกในวินาทีนี้ เปรียบไปแล้วก็ไม่ต่างจาก
“เจ้าชายวิลเลี่ยมกับเคท มิดเดิลตัน” แห่งเอเชีย
พระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างกษัตริย์จิกมี กับหญิงสามัญชนผู้โชคดีที่สุดในโลก
ได้ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและสมพระเกียรติตามแบบฉบับโบราณราชประเพณีของราชวงศ์วังชุก
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2554 ตามมงคลฤกษ์เวลา 08.20 น. และดำเนินต่อเนื่องยาวนานถึง 4
ชั่วโมงเต็ม ณ พระอารามหลวง ภายใน “พูนาคาซอง” ป้อมปราการเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 17
ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองพูนาคา เมืองหลวงเก่าของราชอาณาจักรภูฏาน
ท่ามกลางเสียงประโคมกลอง แตร และการร้องเพลงเฉลิมฉลองสดุดีอย่างเอิกเกริก
โดยมีพระราชาคณะแห่งภูฏาน “เช เคนโป”
เป็นผู้นำประกอบพิธีทางศาสนาต่อหน้าแผ่นพรมพระรูปของ “ซับดรุง”
องค์ลามะผู้ก่อตั้งและรวมประเทศภูฏานตั้งแต่ศตวรรษที่ 17
ขณะที่พระราชบิดาของกษัตริย์จิกมี “สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก”
อดีตกษัตริย์องค์ที่สี่ของภูฏาน ทรงรับขวัญพระสุณิสาด้วยการพระราชทานผ้าพันคอยาว 3
ผืน ประกอบด้วยสีขาว-น้ำเงิน-เขียว
เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนคำอำนวยพรจากสุสานฝังพระศพอดีตบุรพกษัตริย์ตามโบราณราชประเพณี
ฉากไฮไลต์ที่น่าประทับใจที่สุดของพระราชพิธีอภิเษกสมรสครั้งนี้
ซึ่งทำเอาสื่อมวลชนเกือบ 200 ชีวิตจากทั่วโลก รวมถึงกองทัพสื่อจากเมืองไทย
ตลอดจนประชาชนชาวภูฏานหลายแสนคนจาก 20 มณฑลทั่วประเทศ
ที่เฝ้าติดตามชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ปรบมือสนั่นด้วยความปลื้มปีติยินดี คือ
พิธีการสำคัญในช่วงที่ “กษัตริย์จิกมี”
ทรงสวมมงกุฎโบราณตัดเย็บจากผ้าไหมปักดิ้นทองแก่พระคู่หมั้น
เพื่อแต่งตั้งเป็นพระราชินีองค์ใหม่ของภูฏานอย่างเป็นทางการ
โดยเจ้าบ่าวผู้สูงศักดิ์ทรงเชยคางเจ้าสาวขึ้นมองอย่างทะนุถนอม และสบตาหวาน
พร้อมส่งยิ้มให้ด้วยความรักความเสน่หาสุดซึ้ง ทำเอาเจ้าสาว
ซึ่งประหม่าและตื่นเต้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ถึงกับแก้มแดงด้วยความเขินอาย
จากนั้นเจ้าบ่าวจึงประคองเจ้าสาวขึ้นประทับบนบัลลังก์พิธี
พร้อมร่วมเสวยน้ำอมฤตจากจอกศักดิ์สิทธิ์ทองคำ เพื่อความเป็นนิรันดร์ของชีวิต
ตามความเชื่อของราชประเพณี ท่ามกลางความยินดีของเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ของภูฏาน,
ผู้นำสำคัญๆของประเทศ ตลอดจนทูตานุทูตจาก 25 ประเทศทั่วโลก
และบุคคลสำคัญๆระดับประเทศของอินเดีย ที่ร่วมเป็นสักขีพยานราว 200 คน
หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีอย่างเป็นทางการ ต่อมาในช่วงบ่าย “กษัตริย์จิกมี”
ได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้ประชาชนหลายพันคน ที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศของประเทศ
ได้เข้าเฝ้าฯและถวายความยินดีอย่างใกล้ชิด ณ สนามกว้างนอกพระอารามหลวง
บ่าวสาวคู่ใหม่ทรงพระราชดำเนินทักทายเหล่าพสกนิกรอย่างเป็นกันเอง
และเมื่อเสด็จมาถึงจุดรวมพลของกองทัพสื่อ กลุ่มสื่อมวลชนจากประเทศไทย
รวมถึงผู้สื่อข่าวหน้าสตรีไทยรัฐ ก็พร้อมใจกันเปล่งเสียงตะโกนคำว่า “สวัสดี”
ดังกึกก้อง จนทั้งสองพระองค์ต้องทรงหยุดทักทาย พร้อมกับรับสั่งว่า “สวัสดี”
อย่างชัดถ้อยชัดคำ โอกาสนี้เองได้มีนักข่าวสาวรายหนึ่งทูลถามว่า
ทรงรู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้เป็นเจ้าบ่าวในวันนี้ “กษัตริย์จิกมี”
รับสั่งถามกลับอย่างพระอารมณ์ดีว่า แล้วเธอล่ะแต่งงานหรือยัง
พอเหยี่ยวข่าวสาวตอบว่า ยังเพคะ…พระองค์ก็รับสั่งยิ้มๆแทนคำตอบ
ซึ่งสื่อถึงความสุขอันเหลือล้นว่า “มันวิเศษมากๆ!!
เธอน่าจะลองแต่งงานดูบ้าง”…สังเกตจากภาษากายที่แสดงออกแล้ว บ่งบอกได้ชัดเจนว่า
พระองค์ทรงรักและทะนุถนอมพระราชินีของพระองค์มากมายเพียงใด
ทรงแสดงความรักล้นใจอย่างเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชน โดยทรงจูงมือ, โอบกอด
และพูดคุยกะหนุงกะหนิงอย่างมีความสุขตลอดเวลา
ที่สำคัญยังคงยึดมั่นว่าจะทรงมีพระชายาเพียงองค์เดียวตามที่ตั้งพระทัยตลอดมา
หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีอภิเษกสมรส และการเฉลิมฉลองอย่างเอิกเกริกทั่วประเทศตลอด
3 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 13-15 ต.ค.2554
กษัตริย์จิกมีทรงวางแผนพาเจ้าสาวแสนสวยเสด็จไปฮันนีมูนที่เมืองราชาสถาน
ประเทศอินเดีย ในช่วงปลายเดือนเดียวกันนี้
สำหรับเส้นทางความรักของกษัตริย์เจ้าเสน่ห์ ขวัญใจสาวไทย พระองค์นี้
มีเรื่องราวโรแมนติกน่าประทับใจให้เล่าขานชวนติดตาม ทั้งคู่ไม่ได้เพิ่งมาปิ๊งรักกัน
แต่ “กษัตริย์จิกมี” ทรงเคยคุกเข่าขอ “เจ็ตซัน” แต่งงานมาตั้งแต่สมัยวัยเยาว์
ขณะนั้น เจ้าชายเพิ่งมีพระชนม์ 17 ชันษา ส่วนสาวน้อยผู้เป็นรักแท้อายุแค่ 7
ขวบเท่านั้น เจ้าชายทรงให้สัญญากับเจ็ตซันว่า “ถ้าเธอโตขึ้นเมื่อไหร่
และเรายังเป็นโสดไม่มีใคร เราจะกลับมาขอเธอแต่งงาน”
เหตุการณ์น่าประทับใจมิลืมเลือนครั้งนั้นเกิดขึ้นระหว่างที่ครอบครัวทั้งสองฝ่ายไปปิกนิกกันในกรุงทิมพู
เมืองหลวงของภูฏาน โดยครอบครัวฝ่ายหญิงสนิทสนมกันดีกับพระราชวงศ์ภูฏาน
ปั๊ปปี้เลิฟที่เป็นฉากโรแมนติกในวันวาน
ได้กลายเป็นตำนานรักบันลือโลกแห่งเทือกเขาหิมา ลัย
เมื่อพรหมลิขิตชักนำให้ทั้งคู่กลับมาพบกันอีกครั้ง โดยที่ “กษัตริย์จิกมี”
ยังถวิลหารักแรกพบในวัยเด็กไม่เสื่อมคลาย
กษัตริย์ผู้สูงศักดิ์จึงทรงตัดสินพระทัยสละโสด
และประกาศข่าวมหามงคลเป็นทางการครั้งแรกในพิธีเปิดการประชุมรัฐสภา ครั้งที่ 7 ณ
กรุงทิมพู เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศว่า
พระราชบิดา และสมเด็จย่า
“ในฐานะกษัตริย์ บัดนี้ได้ถึงเวลาแล้วที่ข้าพเจ้าจะต้องอภิเษกสมรส
และหลังจากที่คิดใคร่ครวญอย่างรอบคอบ ข้าพเจ้าเห็นว่า
พิธีดังกล่าวควรจัดขึ้นในปลายปีนี้ หลายท่านคงมีความคิดเห็นในใจแล้วว่า
พระราชินีองค์ใหม่ควรจะมีบุคลิกลักษณะอย่างไร เธอต้องเป็นสตรีที่งดงาม ฉลาดหลักแหลม
และสง่างามด้วย ทว่า ข้าพเจ้าเชื่อว่า ด้วยเวลาและประสบการณ์
คนเราย่อมสามารถเติบโตขึ้นเป็นผู้ที่มีพลัง ไม่ว่าจะมาจากชนชั้นใดก็ตาม
ขอเพียงมีความเพียรพยายามอย่างเหมาะควรเท่านั้น สำหรับพระราชินีของภูฏานแล้ว
สิ่งสำคัญที่สุดในฐานะปัจเจกบุคคลก็คือ ต้องเป็นคนดี และในฐานะพระราชินี
ก็ต้องมีความมุ่งมั่นไม่ท้อถอย ที่จะรับใช้ประเทศชาติและประชาชน
…ข้าพเจ้าได้พบสตรีที่มีคุณสมบัติดังกล่าวแล้ว เธอชื่อว่า
“เจ็ตซัน เปมา” แม้ว่าเธอจะยังอายุน้อย แต่มีบุคลิกที่อบอุ่น จิตใจดีงาม
ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ เมื่อผนวกกับความรู้ความสามารถ
และประสบการณ์ที่เธอจะได้รับต่อไปภายภาคหน้า
ย่อมจะทำให้เธอเป็นข้ารับใช้ที่ดีของประเทศชาติได้
พระราชมารดา (ขวาสุด) กับสมเด็จน้า
…“เจ็ตซัน” เป็นคนที่ข้าพเจ้าไว้วางใจที่สุด คอยสนับสนุนข้าพเจ้าตลอดเวลา
ข้าพเจ้าไม่ทราบว่า ประชาชนจะรู้สึกอย่างไรกับเธอบ้าง
แต่เธอคือคนที่ใช่สำหรับข้าพเจ้า!! อย่างไรก็ดี การแต่งงานครั้งนี้มิได้หมายความว่า
ข้าพเจ้าจะสร้างครอบครัวเป็นของตนเอง เพราะตั้งแต่วันแรกที่ข้าพเจ้าขึ้นครองราชย์
ชาวภูฏานทั้ง 20 ชนเผ่า ก็เป็นเสมือนครอบครัวของข้าพเจ้า
การอภิเษกสมรสครั้งนี้จะทำให้ข้าพเจ้ามีพระราชินี ซึ่งจะคอยสนับสนุนเคียงข้าง
ตลอดจนร่วมทำงานรับใช้ประเทศชาติและประชาชน กระนั้น
ข้าพเจ้าขอให้รัฐบาลจัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสอย่างเรียบง่ายพอเพียงเท่านั้น
เพราะความสุขของพระราชบิดาที่ข้าพเจ้ารัก และคำอวยพรจากพสกนิกรชาวภูฏาน
ก็ทำให้ข้าพเจ้ามีความสุขที่สุดแล้ว”
ในที่สุดกษัตริย์รูปงามแห่งภูฏาน ผู้ครององค์เป็นโสดมาจนถึงพระชนม์ 31 พรรษา
ก็ทรงค้นพบหญิงสาวในฝันที่รอคอยมาทั้งชีวิต
เพื่อทำหน้าที่พระราชินีองค์ใหม่แห่งดินแดนมังกรสายฟ้า
ที่จะช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจ
และเคียงคู่กับพระองค์บำบัดทุกข์บำรุงสุขราษฎรชาวภูฏานสืบไป.
ทีมข่าวหน้าสตรี
ไทยรัฐออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษกับ BBC
Bhutan’s Dragon King Jigme crowns bride
What would normally be a big story here in Thailand
where the young Bhutanese King is very popular got pushed aside by the flood
crisis. Enjoy it and forget about the floods for a few minutes!
After the wedding, the royal couple set off on foot from Punakha for the
capital and had covered only a few kilometres by midday (AFP, Prakash Singh)
Click button to listen to Jigme and rightclick to download
Bhutan’s Dragon King Jigme crowns bride
ADAM PLOWRIGHT AFP
PUNAKHA: Bhutan’s 31-year-old king married a student 10 years his junior
Thursday in a colourful ceremony showcasing the rich
Buddhist culture of one of the world’s most remote and
insular countries.
Amid clouds of incense and chanting monks, the
hugely popular King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck crowned his
queen at the end of a series of rituals in the 17th-century
fortified monastery chosen for the occasion.
After a brief purification ceremony to start, they walked
hand-in-hand and smiling to the inner sanctum of the monastery
where an hour of blessings, prostrations and
prayers culminated in the queen taking the
throne.
The ‘‘Dragon King’’, an Oxford graduate who came to power in 2008 at the start
of democracy in Bhutan, married Jetsun Pema, the daughter of an airline pilot
widely admired for her beauty and her impact on the
love-struck monarch.
‘‘She’s very sweet and caring and loves children,’’ one of the king’s cousins
who studied with the queen, Yiwang Pindarica, said after the marriage. ‘‘I’m
sure she will help the king fulfil his duties.’’
Proceedings were beamed live across the
country of 700,000 people and signalled the start of three days of joyful
celebrations, with dancing, singing and drinking in towns and villages.
Bhutan banned foreign television until 1999 and is the only
nation in the world whose government pursues ‘‘Gross
National Happiness’’ for its people instead of economic growth.
‘‘You can be sure that our happiness is increasing,’’ joked Karma Tshiteem, the
head of the Gross National Happiness Commission, which
vets government policy.
Queen Pema, who often looked nervous as the heavily
symbolic ceremony unfolded, wore an
elaborately weaved outfit of gold, red and black. She smiled
anxiously as she received the crown.
Her husband struggled to secure the
embroidered headpiece which slipped off her hair several times before
finally staying put. Later the couple posed for photos, holding hands in front
of the assembled media.
The announcement of the nuptials in May broke the hearts of the
monarch’s many admirers. The ‘‘prince charming of the Himalayas’’ was once
mobbed on a trip to Thailand by weeping
teenagers.
The Elvis fan, who wears his jet-black hair gelled back, is not
expected to marry again in a break from previous tradition.
Polygamy is legal in Bhutan and the king’s
father has four wives, all sisters. Monogamy is increasingly
the norm as Bhutan modernises.
crown – to put a crown on the head of a new king or queen as a
sign of royal power มอบตำแหน่งสูงสุดให้, ครองตำแหน่ง
bride – the woman at a wedding who is getting married เจ้าสาว
junior – to be younger than somebody, by the number of years
mentioned ที่อายุอ่อนกว่า
showcase – to show the best qualities or parts of something
แสดงจุดเด่นของสิ่งของหรือคน
remote – far away from other cities, towns, or societies
ที่ห่างไกล
insular – only interested in your own country, ideas, etc. and
not in those from outside ซึ่งมีมุมมองแคบ, ซึ่งมีทัศนคติแคบ
amid – in the middle of; at the same time as ท่ามกลาง, ระหว่าง
incense – a substance that produces a pleasant smell when you
burn it, used particularly in religious ceremonies ธูป,กำยาน,เครื่องหอม
chant – to sing a piece of religious music using a very limited
range of notes ร้องเพลงสวด
popular – a situation in which someone or something is liked by
many people เป็นที่นิยม, เป็นที่ชื่นชอบ
ritual – a formal ceremony พิธีการ
fortify – to protect a place against attack by building strong
walls, towers, or other structures around it เสริมความแข็งแกร่ง
monastery – a building or serious of buildings in which monks
live, worship and work together วัด
occasion – a special event, ceremony or celebration โอกาส, งาน
purification – the act of removing harmful substances from
something การทำให้บริสุทธิ์
sanctum – a private room where somebody can go and not be
disturbed; a holy place
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์,ปูชนียสถาน,สถานที่หลบภัยที่มิอาจล่วงล้ำเข้าไปได้,ห้องส่วนตัว
blessing – God's help and protection, or a prayer asking for
this การสวดให้พร
prostration – the action of lying with your face downwards,
especially in worship การนอนคว่ำ
culminate – to end with, after developing for some time
สิ้นสุด, ถึงขั้นสุดท้าย
throne – a special chair used by a king or queen to sit on at
ceremonies ราชบัลลังก์
the throne – the monarchy, especially the highest position
(King or Queen) สถาบันกษัตริย์
admire – to respect somebody for what they are or for what they
have done ชมเชย,ยกย่องสรรเสริญ
impact – an effect or influence ผลกระทบ
love-struck – deeply in love
monarch – a king or queen กษัตริย์ หรือราชินี
proceedings – an event or a series of actions
กิจกรรมที่ดำเนินต่อเนื่องในระยะเวลาหนึ่ง
beam – to send out a an electrical, radio or television signal,
etc คลื่น
live – happening now, i.e., not recorded earlier ถ่ายทอดสด
ban – to officially say that someone is not allowed to do
something ห้ามอย่างเป็นทางการ
pursue – to try to achieve something ดำเนินตาม,
พยายามเพื่อให้ได้มาซึ่ง
gross – being the total amount of something before anything is
taken away ทั้งหมด, ยอดรวม
commission – an official group of people who have been given
responsibility to control something, or to find out about something, usually for
the government คณะกรรมการ, คณะกรรมาธิการ
vet – to examine something in order to decide if it is allowed
ตรวจสอบ
policy – a set of plans or action agreed on by a government,
political party, business, or other group นโยบาย
nervous – anxious about something or afraid of something
กระวนกระวาย
symbolise – representing something; being a symbol of something
เป็นสัญลักษณ์, เป็นเครื่องแสดง
unfold – to happen, or to develop ปรากฏออกมา
elaborate – containing a lot of careful detail or many detailed
parts ที่ประณีต,อย่างรอบคอบ,ซับซ้อน,ละเอียด,ที่บรรจง
weave – to make cloth, a carpet, a basket, etc. by crossing
threads or strips across, over and under each other by hand or on a machine
called a loom ถักทอ
outfit – a set of clothes that are worn together เครื่องแต่งกาย
anxious – worried because you think something bad might happen
ที่วิตกกังวล, ที่ร้อนใจ
struggle – to try hard to do something that you find very
difficult พยายาม
secure – to attach or fasten something firmly มัดให้แน่น, ตรึง,
รัด, กระชับ
embroider – to decorate cloth with a pattern of stitches
usually using coloured thread เย็บปักถักร้อย, ปัก, ปักผ้า
assembled – gathered together
media – newspapers, television, radio, etc. สื่อ
nuptials – a wedding การแต่งงาน
charming – very attractive and pleasant น่ารัก
mob – to gather round someone in order to see them and try and
get their attention รุมล้อม
weep – to cry because you some strong emotion ร้องไห้
jet-black – deep shiny black in colou ดำเป็นเงา
tradition – a very old custom, belief, or story ประเพณี,
ขนบธรรมเนียม
polygamy – the custom of having more than one wife at the same
time การมีภรรยาหลายคนในขณะเดียวกัน
legal – relating to the law or lawyers เกี่ยวกับกฎหมาย
monogamy – the fact or custom of being married to only one
person at a particular time การมีคู่สมรสเพียงคนเดียว
norm – a situation or type of behavior that is expected and
considered to be typical มาตรฐาน
modernise – to make a system, methods, etc. more modern and
more suitable for use at the present time ทำให้ทันสมัย
|