หน้า 19 จาก 30
หน้า 19
วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554
นักวิจัยสุดเจ๋ง พบ"แมวเรืองแสง" รักษาโรคเอดส์ได้
นักวิทยาศาสตร์สหรัฐประจำศูนย์มาโย คลินิก
เผยความก้าวหน้าในการวิจัยเพื่อหาทางต่อสู้กับไวรัสเอชไอวี ต้นตอโรคเอดส์
โดยอาศัยผลการทดลองที่ได้จากแมวเรืองแสง
ภาพ: Mayo
Clinic
นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยในสหรัฐอเมริกา
ได้ทำการทดลองโดยการนำแมวมาตัดต่อพันธุกรรมด้วยยีน 2 ชนิด
คือยีนที่ผลิตโปรตีนต้านเอดส์ เรียกว่า "Feline immunodeficiency virus"
หรือ "เอฟไอวี" และการใช้ยีน จีพีเอฟ (GFP)
ซึ่งเป็นยีนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในแมงกะพรุนเรืองแสง
ซึ่งทำให้แมวเกิดการเรืองแสงสีเขียว
เมื่อถูกส่องด้วยแสงอัลตราไวโอเลตเพื่อติดตามการทำงานของยีน
การทดสอบลูกแมวเรืองแสงพบว่า ต้านการติดเชื้อได้ดี ในขณะที่มีลูกแมว 2
ตัวสืบพันธุ์มีลูกได้ โดยที่ลูกแมวยังคงมียีนใหม่อยู่ แต่การทดลองดังกล่าวถูกติงว่า
กระทบต่อสวัสดิภาพสัตว์มากเกินไป
และเตือนว่าให้ลดจำนวนสัตว์ทดลองลงให้มากกว่านี้
ทั้งนี้
การส่องด้วยแสงอัลตราไวโอเลตนั้นเพื่อตรวจสอบความสามารถว่าแมวนั้นสามารถผลิตโปรตีนรักษาเอดส์ได้เช่นเดียวกับลิงแสมหรือไม่
โดยยีนที่ได้จากโปรตีนและแมงกระพรุนเรืองแสงจะทำงานสัมพันธ์กัน
โดยยีนเรืองแสงจากแมงกระพรุนใช้สำหรับติดตามการทำงานของยีนอีกชนิดหนึ่ง
โดยขั้นตอนเริ่มจาก
นักวิจัยใช้ไวรัสที่ไม่มีอันตรายถ่ายโอนยีนเข้าไปในไข่ของแมวตัวเมียที่นำออกมาระหว่างการทำหมัน
จากนั้นนำไข่ไปปฏิสนธิในหลอดทดลอง (IVF) และนำฝังในแม่อุ้มบุญ โดยทำการทดลองมากถึง
22 ครั้งจึงได้ลูกแมว 5 ตัว แต่รอดชีวิตเพียง 3 ตัว โดยมี 2 ตัวสุขภาพดี แต่อีก 1
ตัว มีปัญหาสุขภาพแต่นักวิจัยไม่เชื่อว่าเกิดจากการดัดแปลงยีน
อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาได้ทดลองฉายแสงอัลตราไวโอเลตบนตัวลูกแมวพบว่า
สามารถเรืองแสงได้ ซึ่งช่วยยืนยันได้ด้วยว่า มีการผลิตโปรตีนอยู่ในเนื้อเยื่อ
เมื่อนำเซลล์ลูกแมวเหล่านี้ออกมาทดสอบพบว่า
สามารถต้านการติดเชื้อไวรัสเอดส์ในแมวหรือ FIV ได้ดีกว่าเซลล์จากแมวปกติ
ในขณะที่มีลูกแมว 2 ตัวสามารถสืบพันธุ์มีลูกได้
โดยที่ลูกแมวรุ่นหลังทั้งหมดยังคงมียีนใหม่อยู่
|