sompol w. 53444 INE
|
 |
« ตอบ #120 เมื่อ: มกราคม 14, 2011, 11:35:37 pm » |
|
 กระผม นายสมพล วงศ์ไชย คณะ วิศวกรรมอุตสาหการ sec 17 รหัสนักศึกษา 115340441208-8 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้าตอบกระทู้วันที่ 14 เดือน มกราคม พศ.2554 ที่ จันทร์เพ็ญอพาร์ทเมนท์ เวลา 23:36 เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้
|
|
|
|
hatorikung_nutt
|
 |
« ตอบ #121 เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 03:54:32 pm » |
|
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศศรี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 เลขที่19 รหัสประจำตัว115340441209-6 อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่ 15/01/54 เวลา15.54ณ ตึกIt rmutt คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน
ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้
|
|
|
|
bankclash032
|
 |
« ตอบ #122 เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 05:44:24 pm » |
|
กระผม นาย สุริยพงศ์ ทองคำ นักศึกษาคณะวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec 17 เลขที่ 24 รหัสประจำตัว115340441221-1 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุญยธรรมา ตอบเมื่อวันที่ 15/1/54 เวลา17.45 น. ณ.หอประสงค์  เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์ เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น
|
|
|
|
attakron006@hotmail.com
|
 |
« ตอบ #123 เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 07:14:55 pm » |
|
กระผม นาย อรรถกร จิตรชื่น นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441217-9 เลขที่ 22 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 15 เดือน มกราคม พศ.2554 เวลา 19.14 น. สถานที่ บ้านฟ้ารังสิต เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัว เหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด
|
|
|
|
LeeOa IE'53 SEC.17
|
 |
« ตอบ #124 เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 11:50:58 pm » |
|
กระผม นาย สุธี มีอำมาตย์ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) เลขที่ 15 SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441205-4 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 15 เดือน มกราคม พศ.2554 เวลา 11:55 PM. สถานที่บ้านพักที่วังน้อย เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศ เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมากอย่างน่าตกใจ ! พวกสร้างภาพยนตร์วิทยาศาสตร์นิยมนำไปใช้ เมื่อพวกเขาต้องการให้ในภาพยนตร์ของเขามีฉากฟ้าผ่า หรือการสปาร์กของกระแสไฟฟ้า ยกตัวอย่างหนังเรื่องคนเหล็กภาค 2 (terminator II) ฉากเริ่มต้นที่หุ่นยนต์จากอนาคตเคลื่อนที่ผ่านมิติมาที่เวลาในปัจจุบัน ในเรื่องจะเห็นประกายไฟฟ้าสปาร์กขึ้นอย่างน่ากลัว และหุ่นยนต์ก็มาปรากฎกายขึ้น เบื้องหลังฉาก ผู้กำกับต้องไปติดต่อนักฟิสิกส์ ให้มาต่อเทสลาคอยส์ให้
|
|
|
|
sathian757
|
 |
« ตอบ #125 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 01:09:48 am » |
|
นาย เสถียร ปานามะเส คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 รหัสประจำตัว115340441203-9 ตอบกระทู้วันที่ 16/01/54 เวลา 01:08 น. สถานที่ หอพัก นวนคร
สรุป : เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้
|
|
|
|
Prachija
|
 |
« ตอบ #126 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 06:57:14 am » |
|
กระผม นาย ประชิด จันทร์พลงาม นักศึกษาคณะ วิศวกรรมโยธา sec 17 รหัสประจำตัว 115340411110-2 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุญยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 16 เดือน มกราคม พศ 2554 ที่ บ้านพัก เวลา 6.157 น. มีความเห็นว่า/มีข้อคิดเห็นว่า/ความรู้จากเนื้อหาที่ได้ คือ เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง ถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆัง เวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆัง เสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนัก แต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆัง จะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่ม อันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์
|
|
|
|
sathian757
|
 |
« ตอบ #127 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 07:50:47 am » |
|
นายชัยยันต์ นุยืนรัมย์ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441215-3 เลขที่ 21เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 16 เดือน มกราค พศ.2554 เวลา 07:49น. สถานที่ ห้องพักนวนคร สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด
|
|
|
|
Benjawan Onnual
|
 |
« ตอบ #128 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 03:27:43 pm » |
|
นางสาวเบญจวรรณ อ่อนนวล เลขที่ 55 sec 02 รหัส 1153109030326 สาขาสถิติประยุกต์ ตอบกระทู้เมื่อ 17/1/2554 เวลา 15.27 น. ณ หอพักนำรงค์แมนชัน สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด
|
|
|
|
Khuarwansiriruk
|
 |
« ตอบ #129 เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 08:34:59 pm » |
|
นางสาวเครือวัล ศิริรักษ์ เลขที่ 62 ID:115310903039-1 sec 02 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถิติประยุกต์ เวลา 8.34 pm. วันที่ 19-1-54 กิติพงศ์แมนชั่น สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดคือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง : 
|
|
|
|
rungarun
|
 |
« ตอบ #130 เมื่อ: มกราคม 22, 2011, 10:50:53 pm » |
|
นายรุ่งอรุณ แย้มประดิษฐ์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาอุตสาหการ-การจัดการ sec 17 รหัสประจำตัว 115340441246-8 เลขที่ 36 วันที่ 22/01/54 เวลา 22.51 น.
เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศ เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมากอย่างน่าตกใจ ! พวกสร้างภาพยนตร์วิทยาศาสตร์นิยมนำไปใช้ เมื่อพวกเขาต้องการให้ในภาพยนตร์ของเขามีฉากฟ้าผ่า หรือการสปาร์กของกระแสไฟฟ้า ยกตัวอย่างหนังเรื่องคนเหล็กภาค 2 (terminator II) ฉากเริ่มต้นที่หุ่นยนต์จากอนาคตเคลื่อนที่ผ่านมิติมาที่เวลาในปัจจุบัน ในเรื่องจะเห็นประกายไฟฟ้าสปาร์กขึ้นอย่างน่ากลัว และหุ่นยนต์ก็มาปรากฎกายขึ้น เบื้องหลังฉาก ผู้กำกับต้องไปติดต่อนักฟิสิกส์ ให้มาต่อเทสลาคอยส์ให้
|
|
|
|
satawat
|
 |
« ตอบ #131 เมื่อ: มกราคม 23, 2011, 06:32:49 pm » |
|
กระผม นาย ศตวรรษ รัตนภักดี นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ เลขที่ 34 SEC.02 รหัสประจำตัว 115210441263-8 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 18.32 สถานที่บ้าน มีความเห็นว่า เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศ เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมากอย่างน่าตกใจ ! พวกสร้างภาพยนตร์วิทยาศาสตร์นิยมนำไปใช้ เมื่อพวกเขาต้องการให้ในภาพยนตร์ของเขามีฉากฟ้าผ่า หรือการสปาร์กของกระแสไฟฟ้า ยกตัวอย่างหนังเรื่องคนเหล็กภาค 2 (terminator II) ฉากเริ่มต้นที่หุ่นยนต์จากอนาคตเคลื่อนที่ผ่านมิติมาที่เวลาในปัจจุบัน ในเรื่องจะเห็นประกายไฟฟ้าสปาร์กขึ้นอย่างน่ากลัว และหุ่นยนต์ก็มาปรากฎกายขึ้น เบื้องหลังฉาก ผู้กำกับต้องไปติดต่อนักฟิสิกส์ ให้มาต่อเทสลาคอยส์ให้
|
|
|
|
chatchai
|
 |
« ตอบ #132 เมื่อ: มกราคม 26, 2011, 04:01:17 pm » |
|
กระผม นาย ฉัตรชัย กล่อมเกลี้ยง นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441232-8 เลขที่ 28 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 26 เดือน มกราคม พศ.2554 เวลา 16.01 น. สถานที่ หอพัก 4B
สรุปว่า
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัว เหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด
|
|
|
|
m_japakiya
|
 |
« ตอบ #133 เมื่อ: มกราคม 31, 2011, 11:39:22 am » |
|
นาย มูฮำหมัดนาวี จะปะกียา เลขที่ 2 sec 17 รหัส 115340411104-5 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชา วิศวกรรมโยธา ณ บ้าน จรัญสนิทวงศ์ 31-01-54 เวลา 11.39 น. เรียนกับอาจารย์ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุกๆความถี่ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวดเพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้วค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวดทั้งตัวเหนึ่ยวนำความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดีจึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่สองถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆังเวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆังเสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนักแต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆังจะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่มอันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์
|
|
|
|
suradet phetcharat
|
 |
« ตอบ #134 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 12:48:00 pm » |
|
นายสุรเดช เพ็ชรรัตน์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา CVE2 Sec17 เลขที่ 9 รหัส 115340411115-1 ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 12.48 น.Office สำนักงานบริษัทไทยวัฒน์ เทสลาคอยส์เรียกว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงทำงานที่มีความถี่หนึ่งที่เกิดจากการเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนียวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนียวนำก้อคือขดลวด เพราะในขดลวดก็คือตัวนำอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่านจุดผ่านศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ความจุไฟฟ้าและตัวต้านทาน ความถี่ของของวงจรไฟฟ้า คำนวนได้จาก ค่ำของตัวเก็บประจุ และค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวด พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดขดที่สอง
|
|
|
|
chaiyun
|
 |
« ตอบ #135 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2011, 05:15:52 pm » |
|
นายชัยยันต์ นุยืนรัมย์ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441215-3 เลขที่ 21เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 04 เดือน กุมภาพันธ์ พศ.2554 เวลา 17:14น. สถานที่ ห้องพักนวนคร สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด
|
|
|
|
watit
|
 |
« ตอบ #136 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 05, 2011, 03:41:32 pm » |
|
กระผมชื่อนายวาทิต บุพศิริ นักศึกษา CVE2 สมทม SEC 17 รหัส 115340411106-0 เข้ามาตอบเมื่อ 5/02 /2011 เวลา 3.40pm. ที31/1859 มบ.พฤกษา12-รังสิตคลองสาม
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่
คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ต่อขึ้นดังรูป
ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่
|
|
|
|
thabthong
|
 |
« ตอบ #137 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2011, 06:52:52 pm » |
|
กระผมนาย รัตชานนท์ ทับทอง นศ.คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ รหัสนักศึกษา 115330441203-0 Sec.04 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 18.52 น. ที่วิทยะ สรุปว่า
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัว เหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด
|
|
|
|
Kitiwat
|
 |
« ตอบ #138 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 01:53:43 am » |
|
นายกิติวัฒน์ ศรประสิทธิ์ เลขที่ 24 รหัส 115330411030-3 วิศวกรรมโยธา sec 4
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น
|
|
|
|
NISUMA
|
 |
« ตอบ #139 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2011, 11:44:28 am » |
|
นางสาวนิสุมา พรมนวล รหัส115110901010-8 เลขที่8 sec02 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาคณิตศาสตร์
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น
|
|
|
|
อภิรักษ์
|
 |
« ตอบ #140 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 11, 2011, 01:13:31 am » |
|
นายอภิรักษ์ มีศิลป์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ Sec.04 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา ตอบวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 01:13 น. ที่หอพัก AP แมนชั่น มีความคิดเห็นว่า เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศ เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมากอย่างน่าตกใจ ! พวกสร้างภาพยนตร์วิทยาศาสตร์นิยมนำไปใช้ เมื่อพวกเขาต้องการให้ในภาพยนตร์ของเขามีฉากฟ้าผ่า หรือการสปาร์กของกระแสไฟฟ้า ยกตัวอย่างหนังเรื่องคนเหล็กภาค 2 (terminator II) ฉากเริ่มต้นที่หุ่นยนต์จากอนาคตเคลื่อนที่ผ่านมิติมาที่เวลาในปัจจุบัน ในเรื่องจะเห็นประกายไฟฟ้าสปาร์กขึ้นอย่างน่ากลัว และหุ่นยนต์ก็มาปรากฎกายขึ้น เบื้องหลังฉาก ผู้กำกับต้องไปติดต่อนักฟิสิกส์ ให้มาต่อเทสลาคอยส์ให้
|
|
|
|
|