Pathomphong
|
 |
« ตอบ #60 เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2010, 07:49:55 am » |
|
นายปฐมพงศ์ พูนปก 115330411043-6 sec.04 ภาควิชาวิศวกรรมโยธา ตอบกระทู้วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา 07.48 น. เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา
เมื่อภูเขาไฟประทุขึ้น มันจะพ่นพวกเถ้าถ่านและไอน้ำ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนสถานะจากน้ำเป็นไอ พุ่งขึ้นไปบนอากาศ และเพราะการระเบิดของหินอย่างรุนแรง ทำให้ประจุบวกและลบแยกออกจากกัน ก่อตัวเป็นกลุ่มเมฆ ซึ่งประกอบด้วยก้อนประจุบวก และก้อนประจุลลบ เป็นหย่อมๆอยู่เหนือปล่อง เมื่อก้อนประจุเหล่านี้โตขึ้น สนามไฟฟ้าระหว่างก้อนประจุจะมีขนาดมากขึ้นด้วย เมื่อไรก็ตามที่สนามไฟฟ้ามีค่ามากกว่า 3,000,000 N/C หรือ สามล้านโวลต์ต่อเมตร อากาศโดยรอบจะถูกทำให้แตกตัว เป็นอิออนและสามารถนำไฟฟ้าได้ ขณะที่อิเล็กตรอนไหลผ่านอากาศ มันจะกระทบเข้ากับอากาศ ทำให้โมเลกุลของอากาศเปล่งแสงออกมา ที่เราเรียกว่าการสปาร์ค การสปาร์คเหนือปล่องภูเขาไฟ อาจจะเกิดจากกลุ่มก้อนประจุที่อยู่เหนือปล่องและพุ่งลงมาที่ปากปล่อง หรือจากปากปล่องพุ่งขึ้นไปที่ก้อนประจุก็ได้ และคุณสามารถดูทิศทางของการสปาร์ค โดยดูกิ่งก้านสาขาของประจุไฟฟ้าที่พุ่งออกไป ถ้าประจุไฟฟ้าพุ่งจากบนลงล่าง จะเห็นเป็นเส้นทางขดเคี้ยวเหมือนงู สะบัดไปมาพุ่งจากข้างบนลงข้างล่าง และแตกออกเป็นสาขาด้านล่าง หรือถ้าประจุไฟฟ้าพุ่งจากล่างขึ้นบน จะเห็นเป็นเส้นทางขดเคี้ยวเหมือนงู สะบัดไปมาพุ่งจากข้างล่างขึ้นข้างบน และแตกออกเป็นสาขาด้านบน
|
|
|
|
ศราวุธ พูลทรัพย์
|
 |
« ตอบ #61 เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2010, 07:29:28 pm » |
|
นายศราวุธ พูลทรัพย์ 115330411042-8 sec.04 เลขที่ 35 ภาควิชาวิศวกรรมโยธา ตอบกระทู้ที่หอลากูล วันที่ 26/11/2553 เวลา 19.29น. เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา
เมื่อภูเขาไฟประทุขึ้น มันจะพ่นพวกเถ้าถ่านและไอน้ำ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนสถานะจากน้ำเป็นไอ พุ่งขึ้นไปบนอากาศ และเพราะการระเบิดของหินอย่างรุนแรง ทำให้ประจุบวกและลบแยกออกจากกัน ก่อตัวเป็นกลุ่มเมฆ ซึ่งประกอบด้วยก้อนประจุบวก และก้อนประจุลลบ เป็นหย่อมๆอยู่เหนือปล่อง เมื่อก้อนประจุเหล่านี้โตขึ้น สนามไฟฟ้าระหว่างก้อนประจุจะมีขนาดมากขึ้นด้วย เมื่อไรก็ตามที่สนามไฟฟ้ามีค่ามากกว่า 3,000,000 N/C หรือ สามล้านโวลต์ต่อเมตร อากาศโดยรอบจะถูกทำให้แตกตัว เป็นอิออนและสามารถนำไฟฟ้าได้ ขณะที่อิเล็กตรอนไหลผ่านอากาศ มันจะกระทบเข้ากับอากาศ ทำให้โมเลกุลของอากาศเปล่งแสงออกมา ที่เราเรียกว่าการสปาร์ค การสปาร์คเหนือปล่องภูเขาไฟ อาจจะเกิดจากกลุ่มก้อนประจุที่อยู่เหนือปล่องและพุ่งลงมาที่ปากปล่อง หรือจากปากปล่องพุ่งขึ้นไปที่ก้อนประจุก็ได้ และคุณสามารถดูทิศทางของการสปาร์ค โดยดูกิ่งก้านสาขาของประจุไฟฟ้าที่พุ่งออกไป ถ้าประจุไฟฟ้าพุ่งจากบนลงล่าง จะเห็นเป็นเส้นทางขดเคี้ยวเหมือนงู สะบัดไปมาพุ่งจากข้างบนลงข้างล่าง และแตกออกเป็นสาขาด้านล่าง หรือถ้าประจุไฟฟ้าพุ่งจากล่างขึ้นบน จะเห็นเป็นเส้นทางขดเคี้ยวเหมือนงู สะบัดไปมาพุ่งจากข้างล่างขึ้นข้างบน และแตกออกเป็นสาขาด้านบน
|
|
|
|
Tarintip
|
 |
« ตอบ #62 เมื่อ: พฤศจิกายน 28, 2010, 11:05:46 am » |
|
นางสาวธารินทิพย์ วรรณกลาง นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติประยุกต์ sec02 รหัส 115310903046-6 เลขที่60 ตอบกระทู้วันที่28/11/53 เวลา 10.58 สถานที่หอใน สรุปว่า ภูเขาไฟระเบิด จะเกิดจากพายุสายฟ้าขึ้นในเถ้าภูเขาไฟที่กำลังพวยพุ่งขึ้นเหนือ ปรากฎการณ์นี้ อาจเกิดจากอนุภาคของเถ้าภูเขาไฟเกิดการพุ่งชนกัน ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตในอนุภาคของเถ้าภูเขาไฟ และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฟ้าผ่าขึ้น
|
|
|
|
Sunti
|
 |
« ตอบ #63 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 01:34:27 pm » |
|
Sunti Civil นายสันติ บัวงาม นศ.วิศวกรรมโยธา รหัส 115330411021-2 Sec 4 เลขที่ 16 ตอบกระทู้วันที่ 29/11/53 เวลา 13:34 น. ณ. ม.ราชมงคลธัญบุรี เมื่อภูเขาไฟประทุขึ้น มันจะพ่นพวกเถ้าถ่านและไอน้ำ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนสถานะจากน้ำเป็นไอ พุ่งขึ้นไปบนอากาศ และเพราะการระเบิดของหินอย่างรุนแรง ทำให้ประจุบวกและลบแยกออกจากกัน ก่อตัวเป็นกลุ่มเมฆ ซึ่งประกอบด้วยก้อนประจุบวก และก้อนประจุลลบ เป็นหย่อมๆอยู่เหนือปล่อง เมื่อก้อนประจุเหล่านี้โตขึ้น สนามไฟฟ้าระหว่างก้อนประจุจะมีขนาดมากขึ้นด้วย เมื่อไรก็ตามที่สนามไฟฟ้ามีค่ามากกว่า 3,000,000 N/C หรือ สามล้านโวลต์ต่อเมตร อากาศโดยรอบจะถูกทำให้แตกตัว เป็นอิออนและสามารถนำไฟฟ้าได้ ขณะที่อิเล็กตรอนไหลผ่านอากาศ มันจะกระทบเข้ากับอากาศ ทำให้โมเลกุลของอากาศเปล่งแสงออกมา ที่เราเรียกว่าการสปาร์ค การสปาร์คเหนือปล่องภูเขาไฟ อาจจะเกิดจากกลุ่มก้อนประจุที่อยู่เหนือปล่องและพุ่งลงมาที่ปากปล่อง หรือจากปากปล่องพุ่งขึ้นไปที่ก้อนประจุก็ได้ และคุณสามารถดูทิศทางของการสปาร์ค โดยดูกิ่งก้านสาขาของประจุไฟฟ้าที่พุ่งออกไป ถ้าประจุไฟฟ้าพุ่งจากบนลงล่าง จะเห็นเป็นเส้นทางขดเคี้ยวเหมือนงู สะบัดไปมาพุ่งจากข้างบนลงข้างล่าง และแตกออกเป็นสาขาด้านล่าง หรือถ้าประจุไฟฟ้าพุ่งจากล่างขึ้นบน จะเห็นเป็นเส้นทางขดเคี้ยวเหมือนงู สะบัดไปมาพุ่งจากข้างล่างขึ้นข้างบน และแตกออกเป็นสาขาด้านบน
|
|
|
|
mildfunta
|
 |
« ตอบ #64 เมื่อ: พฤศจิกายน 29, 2010, 05:33:49 pm » |
|
นางสาวธัญลักษณ์ มิชัยยา รหัส 1153109030607 เลขที่ 70 sec 02 วันที่ 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา 17.27 น. ณ shooter internet cafe' เมื่อภูเขาไฟเกิดการปะทุขึ้น อนุภาคของเถ้าถ่านนั้นก็จะพุ่งชนกันทำให้เกิดเป็นไฟฟ้าสถิตขึ้นและเป็นเหตุทำให้เกิดฟ้าผ่า การระเบิดบางครั้งจะมีเถ้าภูเขาไฟน้อยแต่เกิดฟ้าผ่าจำนวนมาก เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมากและถือว่าอันตรายด้วย
|
|
|
|
ยุพารัตน์ หยิบยก
|
 |
« ตอบ #65 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2010, 11:30:27 pm » |
|
นางสาวยุพารัตน์ หยิบยก เลขที่9 รหัส 115110901011-6 คณะวิทยาสาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาคณิตศาสตร์ sec 2 เรียนกับอาจารย์จรัส บุณยธรรมา
เมื่อภูเขาไฟประทุขึ้น มันจะพ่นพวกเถ้าถ่านและไอน้ำ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนสถานะจากน้ำเป็นไอ พุ่งขึ้นไปบนอากาศ และเพราะการระเบิดของหินอย่างรุนแรง ทำให้ประจุบวกและลบแยกออกจากกัน ก่อตัวเป็นกลุ่มเมฆ ซึ่งประกอบด้วยก้อนประจุบวก และก้อนประจุลลบ เป็นหย่อมๆอยู่เหนือปล่อง เมื่อก้อนประจุเหล่านี้โตขึ้น สนามไฟฟ้าระหว่างก้อนประจุจะมีขนาดมากขึ้นด้วย เมื่อไรก็ตามที่สนามไฟฟ้ามีค่ามากกว่า 3,000,000 N/C หรือ สามล้านโวลต์ต่อเมตร อากาศโดยรอบจะถูกทำให้แตกตัว เป็นอิออนและสามารถนำไฟฟ้าได้ ขณะที่อิเล็กตรอนไหลผ่านอากาศ มันจะกระทบเข้ากับอากาศ ทำให้โมเลกุลของอากาศเปล่งแสงออกมา ที่เราเรียกว่าการสปาร์ค การสปาร์คเหนือปล่องภูเขาไฟ อาจจะเกิดจากกลุ่มก้อนประจุที่อยู่เหนือปล่องและพุ่งลงมาที่ปากปล่อง หรือจากปากปล่องพุ่งขึ้นไปที่ก้อนประจุก็ได้ และคุณสามารถดูทิศทางของการสปาร์ค โดยดูกิ่งก้านสาขาของประจุไฟฟ้าที่พุ่งออกไป ถ้าประจุไฟฟ้าพุ่งจากบนลงล่าง จะเห็นเป็นเส้นทางขดเคี้ยวเหมือนงู สะบัดไปมาพุ่งจากข้างบนลงข้างล่าง และแตกออกเป็นสาขาด้านล่าง หรือถ้าประจุไฟฟ้าพุ่งจากล่างขึ้นบน จะเห็นเป็นเส้นทางขดเคี้ยวเหมือนงู สะบัดไปมาพุ่งจากข้างล่างขึ้นข้างบน และแตกออกเป็นสาขาด้านบน
|
|
|
|
opisit
|
 |
« ตอบ #66 เมื่อ: มกราคม 24, 2011, 07:06:53 pm » |
|
กระผม นาย พิสิทธิ์ สอนเทศ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาสตร์ sec 17 รหัสประจำตัว 115340441207-0 เรียนกับอาจารย์ ผ.ศ. จรัส บุณยธรรม เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 24 เดือน มกราคม พ.ศ. 2554 ที่บ้าน เวลา 19:00 น. มีความเห็นว่า/มีข้อคิดเห็นว่า/ความรู้จากเนื้อหาที่ได้ คือ เมื่อภูเขาไฟประทุขึ้น มันจะพ่นพวกเถ้าถ่านและไอน้ำ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนสถานะจากน้ำเป็นไอ พุ่งขึ้นไปบนอากาศ และเพราะการระเบิดของหินอย่างรุนแรง ทำให้ประจุบวกและลบแยกออกจากกัน ก่อตัวเป็นกลุ่มเมฆ ซึ่งประกอบด้วยก้อนประจุบวก และก้อนประจุลลบ เป็นหย่อมๆอยู่เหนือปล่อง เมื่อก้อนประจุเหล่านี้โตขึ้น สนามไฟฟ้าระหว่างก้อนประจุจะมีขนาดมากขึ้นด้วย เมื่อไรก็ตามที่สนามไฟฟ้ามีค่ามากกว่า 3,000,000 N/C หรือ สามล้านโวลต์ต่อเมตร อากาศโดยรอบจะ ถูกทำให้แตกตัว เป็นอิออนและสามารถนำไฟฟ้าได้ ขณะที่อิเล็กตรอนไหลผ่านอากาศ มันจะกระทบเข้ากับอากาศ ทำให้โมเลกุลของอากาศเปล่งแสงออกมา ที่เราเรียกว่าการสปาร์ค การสปาร์คเหนือปล่องภูเขาไฟ อาจจะเกิดจากกลุ่มก้อนประจุที่อยู่เหนือปล่องและพุ่งลงมาที่ปากปล่อง หรือจากปากปล่องพุ่งขึ้นไปที่ก้อนประจุก็ได้ และคุณสามารถดูทิศทางของการสปาร์ค โดยดูกิ่งก้านสาขาของประจุไฟฟ้าที่พุ่งออกไป ถ้าประจุไฟฟ้าพุ่งจากบนลงล่าง จะเห็นเป็นเส้นทางขดเคี้ยวเหมือนงู สะบัดไปมาพุ่งจากข้างบนลงข้างล่าง และแตกออกเป็นสาขาด้านล่าง หรือถ้าประจุไฟฟ้าพุ่งจากล่างขึ้นบน จะเห็นเป็นเส้นทางขดเคี้ยวเหมือนงู สะบัดไปมาพุ่งจากข้างล่างขึ้นข้างบน และแตกออกเป็นสาขาด้านบน
|
|
|
|
siwapat
|
 |
« ตอบ #67 เมื่อ: มกราคม 28, 2011, 02:54:04 pm » |
|
ผมนายศิวภัทร์ รัตนสมบูรณ์ รหัส115330411024-6 sec4 เลขที่18 วิศวกรรมโยธา วันที่28/1/54 เวลา 2.53pm. ที่หอลากูลแมนชั่น เป็น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ อันมหัศจรรย์ ที่เกิดขึ้นระหว่างการเกิด ภูเขาไฟระเบิด จะเกิด พายุสายฟ้า ขึ้นในเถ้าภูเขาไฟที่กำลังพวยพุ่งขึ้นเหนือ ภูเขาไฟ โดยนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถค้นพบสาเหตุ ของ ปรากฏการณ์ โวลเคนิก ไลทนิ่ง (Volcanic Lightning) โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งสมมุติฐานว่า ปรากฏการณ์ โวลเคนิก ไลทนิ่ง นั้นน่าจะคล้ายการเกิด พายุสายฟ้า ( Thunderstorms ) และในการสัมนาเกี่ยวกับสภาวะอากาศ TPOD เมื่อ 17 กันยายน 2004 เหล่านักวิทยาศาสตร์ ได้สัมนากันว่าปรากฏการณ์นี้ อาดเกิดจากการที่อนุภาคของเถ้าภูเขาไฟเกิดการพุ่งชนกัน ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิต ขึ้นในอนุภาคของเถ้าภูเขาไฟ และเป็นเหตุให้เกิดฟ้าผ่าขี้น ขณะเกิดภูเขาไฟระเบิด และเมื่อเร็วๆนี้ ก็มีสมมุติฐานใหม่ ว่าอาดเกิดจากที่เม็กม่า ได้ปลดปล่อยความชื้นออกมา
|
|
|
|
|