หัวข้อ: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: ฟิสิกส์ราชมงคล ที่ ธันวาคม 12, 2009, 12:53:28 pm ของเล่นอย่างหนึ่งขายอยู่ตามห้างสรรพสินค้า เป็นทรงกลมมีแกนกลาง มีประกายไฟฟ้าวิ่งวูบวาบจากแกนกลางมาสู่ผิวทรงกลม เมื่อเอามือไปจับผิวทรงกลมจะมีสายฟ้าวิ่งมาสู่มือ เห็นเป็นเส้นขาวชัดเจน คลิกค่ะ (http://www.rmutphysics.com/charud/naturemystery/tesla/Tesla%20Coils.htm)
หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: tanongsak wachacama ที่ มกราคม 01, 2011, 09:27:55 pm กระผมนายทนงศักดิ์ เวชกามา นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา รหัสนักศึกษา115330411016-2 กลุ่ม53341cve sec04 อาจารย์ผู้สอน อาจารย์จรัส บุณยธรรมา
ได้เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 01/01/2554 ที่หอพักspcondo เวลา21.27 น. ได้มีข้อคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า เทสลาคอยส์หรือหม้อแปลงแบบเรโซแนท์นั้นเป็นหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่ทำให้เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ โดยกาทำงานนั้นจะทำการป้อนพลังงานให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่หนึ่ง และต้องเป็นการป้อนพลังงานที่มีความต่อเนื่องและมีความถี่เท่ากัน ถึงจะทำให้เกิดการเรโซเเนนท์ได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Sonthaya Suwaros ที่ มกราคม 07, 2011, 10:45:55 am นายสนธยา สุวรส นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ วิศวกรรมอุตสาหกรรม รหัสประจำตัว 115040441089-8 เวลา 10.45 น.ครับผม
เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศ เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมากอย่างน่าตกใจ ! พวกสร้างภาพยนตร์วิทยาศาสตร์นิยมนำไปใช้ เมื่อพวกเขาต้องการให้ในภาพยนตร์ของเขามีฉากฟ้าผ่า หรือการสปาร์กของกระแสไฟฟ้า ยกตัวอย่างหนังเรื่องคนเหล็กภาค 2 (terminator II) ฉากเริ่มต้นที่หุ่นยนต์จากอนาคตเคลื่อนที่ผ่านมิติมาที่เวลาในปัจจุบัน ในเรื่องจะเห็นประกายไฟฟ้าสปาร์กขึ้นอย่างน่ากลัว และหุ่นยนต์ก็มาปรากฎกายขึ้น เบื้องหลังฉาก ผู้กำกับต้องไปติดต่อนักฟิสิกส์ ให้มาต่อเทสลาคอยส์ให้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Sunti ที่ มกราคม 07, 2011, 08:01:31 pm Sunti Civil นายสันติ บัวงาม นศ.วิศวกรรมโยธา รหัส 115330411021-2 Sec 4 เลขที่ 16 ตอบกระทู้วันที่ 7/01/54 เวลา 20:00 ณ. หอป้าอ้วน
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: aomme ที่ มกราคม 07, 2011, 08:05:27 pm น.ส ศรัญญา เพชรแก้ว เลขที่ 45 sec 02 สาขา สถิติประยุกต์ วัน 07/01/54 เวลา 19.54 สถานที่ บ้านตัวเอง
เทสลาคอยส์เรียกว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงทำงานที่มีความถี่หนึ่งที่เกิดจากการเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนียวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนียวนำก้อคือขดลวด เพราะในขดลวดก็คือตัวนำอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่านจุดผ่านศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ความจุไฟฟ้าและตัวต้านทาน ความถี่ของของวงจรไฟฟ้า คำนวนได้จาก ค่ำของตัวเก็บประจุ และค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวด พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: kambio ที่ มกราคม 08, 2011, 12:34:45 pm นางสาว นันทวัน มีชำนาญ นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขา ชีววิทยา sec. 02 เลขที่ 43 รหัส 115210904052-5 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 8 ม.ค. 2553 สถานที่ บ้าน เวลา 12.33 น.
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: nuubuoe ที่ มกราคม 08, 2011, 12:46:01 pm นางสาวจรีรัตน์ ชะโปรัมย์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติประยุกต์ รหัส 115310903040-9 sec.02 เลขที่ 63 ตอบกระทู้เมื่อ 08/01/54 เวลา12.45 น.ที่บ้าน
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Nueng ที่ มกราคม 08, 2011, 12:57:10 pm นางสาวสมฤดี สอนชอุ่ม เลขที่ 19 รหัส 115110903066-8 sec 02 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 8 ม.ค. 54 เวลา 13.00 น. ณ หอพักไพลินเพลส
สรุปได้สาระสำคัญ ดังนี้ ...... เทสลาคอยส์เรียกว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงทำงานที่มีความถี่หนึ่งที่เกิดจากการเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนียวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนียวนำก้อคือขดลวด เพราะในขดลวดก็คือตัวนำอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่านจุดผ่านศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ความจุไฟฟ้าและตัวต้านทาน ความถี่ของของวงจรไฟฟ้า คำนวนได้จาก ค่ำของตัวเก็บประจุ และค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวด พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: alongkorn hunbuathong ที่ มกราคม 08, 2011, 01:12:52 pm นายอลงกรณ์ หุ่นบัวทอง สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา รหัส 115330411026-1 เลขที่ 20 กลุ่ม 53341 cve sec 04 วันที่ 8/1/54 เวลา 13.12 น ณ บ้านบางชันวิลล่า
เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศ เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูง เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Jutharat ที่ มกราคม 08, 2011, 02:44:45 pm นางสาวจุพารัตน์ นาวายนต์ รหัส 115210417058-2 เลขที่ 28 sec 02 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 8 มกราคม 2554 เวลา 14.45 ณ หอ RS
เทสลาคอยส์เรียกว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงทำงานที่มีความถี่หนึ่งที่เกิดจากการเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนียวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนียวนำก้อคือขดลวด เพราะในขดลวดก็คือตัวนำอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่านจุดผ่านศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ความจุไฟฟ้าและตัวต้านทาน ความถี่ของของวงจรไฟฟ้า คำนวนได้จาก ค่ำของตัวเก็บประจุ และค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวด พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: kodchaporn ที่ มกราคม 08, 2011, 08:30:30 pm น.ส กชพร เพ็งคำเส็ง นศ.วิศวกรรมเกษตร-สาขาอาหาร sec02 เลขที่29
รหัส 115210417059-0 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่วันที่ 8 มกราคม 2554 เวลา 20.30 น. สถานที่ บ้าน เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง ถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆัง เวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆัง เสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนัก แต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆัง จะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่ม อันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: nutthaporn ที่ มกราคม 08, 2011, 09:33:59 pm นางสาว กิติมา รัตโนทัย เลขที่ 16 รหัส 115110903001-5 วันที่ 8 ม.ค. 54 เวลา 21.34 น. สถานที่ หอ zoom
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุกๆความถี่ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวดเพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้วค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวดทั้งตัวเหนึ่ยวนำความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดีจึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่สองถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆังเวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆังเสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนักแต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆังจะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่มอันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: nutthaporn ที่ มกราคม 09, 2011, 01:23:59 am นางสาวณัฐพร พิศนุ sec 02 เลขที่ 17 รหัส 115110903030-4 วันที่ 09/01/2554 เวลา 01.24 สถานที่ หอ ZOOM
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุกๆความถี่ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวดเพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้วค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวดทั้งตัวเหนึ่ยวนำความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดีจึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่สองถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆังเวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆังเสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนักแต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆังจะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่มอันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: kitima ที่ มกราคม 09, 2011, 09:06:44 am นางสาว กิติมา รัตโนทัย เลขที่ 16 รหัส 115110903001-5 วันที่ 9 ม.ค. 54 เวลา 9.06 น. สถานที่ หอ zoom
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุกๆความถี่ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวดเพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้วค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวดทั้งตัวเหนึ่ยวนำความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดีจึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่สองถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆังเวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆังเสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนักแต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆังจะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่มอันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: siwapat ที่ มกราคม 09, 2011, 11:07:21 am เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุกๆความถี่ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวดเพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้วค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวดทั้งตัวเหนึ่ยวนำความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดีจึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่สองถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆังเวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆังเสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนักแต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆังจะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่มอันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์
หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: kittisap ที่ มกราคม 09, 2011, 12:20:37 pm กระผม นายกิตติศัพท์ ถนัดงาน นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec.4
เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 9 มกราคม 2554 ที่ บ้าน ซอยพรธิสาร3 เวลา 12.20 น. ความคิดเห็นว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: chaiwat ที่ มกราคม 09, 2011, 02:01:04 pm กระผมนายชัยวัฒน์ คำพันเกิด คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาครุศาสตร์เครื่องกล รหัส 115011113029-2 sec.02 เลขที่ 3 ได้เข้ามาตอบกระทู้เมื่อวันที่ 9/01/2554 เวลา 14.00 น.ที่หอพักโอนิน5
มีความคิดเห็นว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Piyarat Mounpao ที่ มกราคม 09, 2011, 02:07:23 pm นางสาวปิยะรัตน์ เหมือนเผ่า เลขที่ 42 รหัส 115210904050-9 กลุ่ม 02 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาชีววิทยา สถานที่ บ้าน วันที่ 09/01/54 เวลา 14.07น.
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: TanGMe ที่ มกราคม 09, 2011, 02:37:44 pm นางสาวภัทรพร ผลอำไพ รหัสนักศึกษา 115110417062-6 เลขที่ 9 sec 02 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 9 มกราคม 2554 เวลา 14.37 น. ที่หออยู่บ้านแมนชั่น
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Sirilak ที่ มกราคม 09, 2011, 08:11:01 pm นางสาวสิริลักษณ์ ศัพสุข เลขที่ใหม่30 sec02 รหัส115210417064-0
เรียนกับ อ.จรัส บุณยธรรมา วันที่9 มกราคม 2554 เวลา 20.10น. ทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการ เรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Mickey2010 ที่ มกราคม 09, 2011, 09:26:16 pm นางสาวปัทมา วงษ์แก้วฟ้า รหัส115310903038-3 เลขที่61 sec02 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติประยุกต์ เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 9 มกราคม 2554 เวลา 21.05 น. สถานที่บ้านของตนเอง
สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศ เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมากอย่างน่าตกใจ เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Narumol ที่ มกราคม 09, 2011, 09:39:39 pm น.ส.นฤมล กำลังฟู เลขที่26 รหัสนักศึกษา 115210417031-9 Sec.2
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์ เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้น จากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Jantira ที่ มกราคม 09, 2011, 09:48:06 pm นางสาวจันทิรา รัตนพันธุ์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติประยุกต์ sec.02 เลขที่64 รหัส115310903042-5 วันที่9ม.ค.2554 สถานที่Banoffee เวลา21.47น.
เทสลาคอยส์เรียกว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงทำงานที่มีความถี่หนึ่งที่เกิดจากการเรโซ แนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนียวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนียวนำก้อคือขดลวด เพราะในขดลวดก็คือตัวนำอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่านจุดผ่านศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ความจุไฟฟ้าและตัวต้านทาน ความถี่ของของวงจรไฟฟ้า คำนวนได้จาก ค่ำของตัวเก็บประจุ และค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวด พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: wuttipong ที่ มกราคม 09, 2011, 11:56:33 pm กระผมนายวุฒิพงษ์ สุขะ วิศวกรรมโยธา เลขที่ 23 รหัส 115330411029-5 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 9/01/54 เวลา 23:56 น. ที่หอพัก FourB5
สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการ เรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: mukkie ที่ มกราคม 10, 2011, 08:33:47 am นางสาว ปาณิศา ไพรสยม sec.2 เลขที่73 รหัสนักศึกษา 115310903054-0 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาสถิติ ตอบกระทู้วันที่10ม.ค.54 เวลา8.30น. ที่บ้านตัวเอง
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดคือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: sutin ที่ มกราคม 10, 2011, 11:50:20 am นาย สุทิน ศรีวิลัย SEC 17 เลขที่ 25 รหัส 115340441222-9 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 10/1/2554 ที่ บ.เจเอสออโตเวิร์ค เวลา 11.50
เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมากอย่างน่าตกใจ ! พวกสร้างภาพยนตร์วิทยาศาสตร์นิยมนำไปใช้ เมื่อพวกเขาต้องการให้ในภาพยนตร์ของเขามีฉากฟ้าผ่า หรือการสปาร์กของกระแสไฟฟ้า ยกตัวอย่างหนังเรื่องคนเหล็กภาค 2 (terminator II) ฉากเริ่มต้นที่หุ่นยนต์จากอนาคตเคลื่อนที่ผ่านมิติมาที่เวลาในปัจจุบัน ในเรื่องจะเห็นประกายไฟฟ้าสปาร์กขึ้นอย่างน่ากลัว และหุ่นยนต์ก็มาปรากฎกายขึ้น เบื้องหลังฉาก ผู้กำกับต้องไปติดต่อนักฟิสิกส์ ให้มาต่อเทสลาคอยส์ให้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: sumintra ที่ มกราคม 10, 2011, 12:09:15 pm นางสาวสุมินตรา งามสมบัติ เลขที่ 36 รหัส 115210452022-4 sec 2
ตอบกระทู้วันที่ 10 มกราคม 2554 เวลา 12.08 ที่หอพัก มีความเห็นว่า... คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ต่อขึ้นดังรูป ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Jutamat ที่ มกราคม 10, 2011, 12:36:02 pm นางสาวจุฑามาศ เชื้ออภัย รหัส115210904056-6 sec 02 เลขที่ 38 สาขาชีววิทยา เรียนกับ อ.จรัส บุญยธรรมา วันที่ 10/1/54 เวลา 12.36 น.
คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ต่อขึ้นดังรูป ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: ดนุพร อ่อนศรี ที่ มกราคม 10, 2011, 12:54:55 pm นายดนุพร อ่อนศรี รหัส 115040472024-7 sec.02 เลขที่ 8 ภาควิชาวิศวกรรมพลาสติก ตอบกระทู้ที่บ้านซอยอิสเทิล วันที่ 10/01/2554 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมาเทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: amnuay cve2 ที่ มกราคม 10, 2011, 02:35:07 pm :)กระผมนาย อำนวย เกิดโภคา นักศึกษาคณะวิศวกรรมโยธา SEC 17 เลขที่ 10 รหัส 115340411116-9 อาจารย์ผู้สอน ผศ. จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 10/1/2554 ที่บ้าน เวลา 14.37 น. :D
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Kunlaya ที่ มกราคม 10, 2011, 03:14:09 pm นางสาวกัลยา เปรมเปรย SEC 02 เลขที่ 33 รหัส 115210441262-0 นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ วิศวกรรมอุตสาหการ เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 10/01/2554
ที่ วิทยะบริการ เวลา 15.06 น. มีความเห็นว่า เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมากอย่างน่าตกใจ ! พวกสร้างภาพยนตร์วิทยาศาสตร์นิยมนำไปใช้ เมื่อพวกเขาต้องการให้ในภาพยนตร์ของเขามีฉากฟ้าผ่า หรือการสปาร์กของกระแสไฟฟ้า ยกตัวอย่างหนังเรื่องคนเหล็กภาค 2 (terminator II) ฉากเริ่มต้นที่หุ่นยนต์จากอนาคตเคลื่อนที่ผ่านมิติมาที่เวลาในปัจจุบัน ในเรื่องจะเห็นประกายไฟฟ้าสปาร์กขึ้นอย่างน่ากลัว และหุ่นยนต์ก็มาปรากฎกายขึ้น เบื้องหลังฉาก ผู้กำกับต้องไปติดต่อนักฟิสิกส์ ให้มาต่อเทสลาคอยส์ให้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Nitikanss ที่ มกราคม 10, 2011, 04:01:54 pm น.ส นิติการณ์ รัตนบุรี เลขที่ 71 sec 02 สาขา สถิติประยุกต์ วัน 10/01/54 เวลา 16.01 สถานที่ Banoffee
เทสลาคอยส์เรียกว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงทำงานที่มีความถี่หนึ่งที่เกิดจากการเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนียวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนียวนำก้อคือขดลวด เพราะในขดลวดก็คือตัวนำอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่านจุดผ่านศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ความจุไฟฟ้าและตัวต้านทาน ความถี่ของของวงจรไฟฟ้า คำนวนได้จาก ค่ำของตัวเก็บประจุ และค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวด พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: soawanee ที่ มกราคม 10, 2011, 04:05:25 pm นางสาวสาวณีย์อนันต์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติประยุกต์ sec.02 เลขที่72 รหัส1153109030532 ตอบกระทู้วันที่ 10ม.ค.2554 เวลา16. 16.03น.สถานที่ บ้าน
เทสลาคอยส์เรียกว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงทำงานที่มีความถี่หนึ่งที่เกิดจากการเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนียวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนียวนำก้อคือขดลวด เพราะในขดลวดก็คือตัวนำอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่านจุดผ่านศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ความจุไฟฟ้าและตัวต้านทาน ความถี่ของของวงจรไฟฟ้า คำนวนได้จาก ค่ำของตัวเก็บประจุ และค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวด พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Bifern ที่ มกราคม 10, 2011, 09:17:37 pm นางสาวชลทิพย์ เปาทอง รหัส115310903007-8 เลขที่48 sec02 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติประยุกต์ เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 10 มกราคม 2554 เวลา 21.12 น. สถานที่ บ้านตัวเอง
สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์ คือ หม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศและสามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมาก นิยมใช้สร้างภาพยนต์ หม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์ ไม่ใช่ทุกๆความถี่ คอยส์ที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน จึงจะเกิดความถี่เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: jackmaco ที่ มกราคม 10, 2011, 10:00:55 pm นายธีรพงษ์ ม้วนทอง คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 รหัสประจำตัว115340441211-2
ตอบกระทู้วันที่ 10/01/54 เวลา 22:00 น. สถานที่ หอพัก เอื้อมเดือน สรุป : เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: dararat ที่ มกราคม 10, 2011, 10:21:13 pm นางสาวดารารัตน์ นิรันต์เรือง รหัส 115210904035-0 sec 02 เลขที่ 41 คณะวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยี สาขาชีววิทยา เข้ามาตอบกระทู้เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2554 เวลา 22:21 ณ ห้องพักส่วนตัว ซ.zoom
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: mildfunta ที่ มกราคม 11, 2011, 09:33:51 am นางสาวธัญลักษณ์ มิชัยยา เลขที่ 76 รหัส 1153109030607 sec 02 วันที่ 11 มกราคม 2554 เวลา 09.29 น. ณ หอในตึก 3 พลังงานของขดลวดที่สองมาจากขดลวดขดที่หนึ่งซึ่งวงจรของขดลวดขดที่หนึ่งประกอบด้วย 1.หม้อแปลงไฟแรงสูง 2.ความจุไฟฟ้า 3.ช่องว่าง(spark gap) 4.ขดลวด ทั้งหมดต่อขึ้นเป็นวงจรออสซิลเลตเมื่อเปิดไฟจ่ายกระแสให้กับวงจรไฟฟ้าหม้อแปลงไฟจะจ่ายไฟให้กับตัวเก็บประจุจนเต็มประจุจะวิ่งกลับไปมาระหว่างตัวเก็บประจุกับตัวเหนี่ยวนำ เมื่อมันมีพลังงานมากพอแล้ว ประจุจะสามารถวิ่งผ่านช่องว่างได้
หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: nontapun ที่ มกราคม 11, 2011, 09:34:30 am กระผม นายนนทพันธ์ เสนาฤทธิ์ นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec.4
เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 11 มกราคม 2554 ที่ บ้าน ซอยพรธิสาร3 เวลา 09.40 น. ความคิดเห็นว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Biwtiz ที่ มกราคม 11, 2011, 09:48:19 am น.ส กชพรรณ นาสวาสดิ์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติ รหัสนักศึกษา 115310903036-7 เลขที่ 53 sec 02 ตอบกระทู้วันที่ 11 ม.ค 54 เวลา 9.48 น. สถานที่ บ้านคลอง 6
สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์ คือ หม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศและสามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมาก นิยมใช้สร้างภาพยนต์ หม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์ ไม่ใช่ทุกๆความถี่ คอยส์ที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำตัวเก็บประจุและตัวต้านทานค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวดทั้งตัวเหนึ่ยวนำความจุไฟฟ้าและความต้านทานจึงจะเกิดความถี่เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Chantana ที่ มกราคม 11, 2011, 11:38:46 am นางสาวฉันทนา ไกรสินธุ์ นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาสถิติประยุกต์ sec 02 เลขที่ 47 รหัสนักศึกษา 115310903002-9 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 11/01/2554 เวลา 11:37 สถานที่ Shooter Internet อ่านแล้วสรุปได้ว่า
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนนท์ ความหมายทางฟิสิกส์คือ หม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดจากเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช้ทุกๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ค่าของความเปนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่านศูนย์กลาง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Tarintip ที่ มกราคม 11, 2011, 11:41:59 am นางสาวธารินทิพย์ วรรณกลาง นักศึกษาคณะวิทย่ศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติประยุกต์ sec02 เลขที่ 66 ตอบกระทู้วันที่11/01/54 เวลา 11.35 สถานที่ หอใน
สรุปว่า เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า เทสลาคอยส์ ม่ชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนนท์ หม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: nachaya ที่ มกราคม 11, 2011, 12:19:57 pm ผมนาย ณชย ประสพเนตร์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ
sec 4 เลขที่ 49 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 11 มกราคม 2554 ที่ บ้าน ซอยพรธิสาร3 เวลา 12.20 น. ความคิดเห็นว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: heetoon ที่ มกราคม 11, 2011, 12:50:14 pm นายราชันย์ บุตรชน นศ.วิศวกรรมโยธา รหัส 115330411047-7 Sec 4 ตอบกระทู้วันที่ 11/01/54 เวลา 12.50 ณ. Four B4
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: werayut rmutt ที่ มกราคม 11, 2011, 01:50:29 pm นายวีรยุทธ บุญใหญ่ รหัส115330411052-7 เลขที่ 45 sec.4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา
เข้ามาตอบกระทู้เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2554 เวลา 13.47 น. ณ ตึกวิทยะบริการ เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: namwhan ที่ มกราคม 11, 2011, 02:14:11 pm นางสาวพรรณฐิณี โสภาวนัส คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติประยุกต์ sec.02 เลขที่50 รหัส1153109030334 ตอบกระทู้วันที่ 11 มกราคม2554 เวลา 14.14น.เทสลาคอยส์เรียกว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงทำงานที่มีความถี่หนึ่งที่เกิดจากการเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนียวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนียวนำก้อคือขดลวด เพราะในขดลวดก็คือตัวนำอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่านจุดผ่านศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ความจุไฟฟ้าและตัวต้านทาน
ความถี่ของของวงจรไฟฟ้า คำนวนได้จาก ค่ำของตัวเก็บประจุ และค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวด พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: rungniran ที่ มกราคม 11, 2011, 02:37:42 pm กระผมนายรุ่งนิรันดร์ สอนจันทร์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา รหัสนักศึกษา115330411005-5 กลุ่ม53341cve sec04 อาจารย์ผู้สอน อาจารย์จรัส บุณยธรรมา
ได้เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 11/01/2554 ที่สวนสุทธิพันธ์ เวลา2.37 น. ได้มีข้อคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า เทสลาคอยส์หรือหม้อแปลงแบบเรโซแนท์นั้นเป็นหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่ทำให้เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ โดยกาทำงานนั้นจะทำการป้อนพลังงานให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่หนึ่ง และต้องเป็นการป้อนพลังงานที่มีความต่อเนื่องและมีความถี่เท่ากัน ถึงจะทำให้เกิดการเรโซเเนนท์ได้ ;D หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: waranya ที่ มกราคม 11, 2011, 02:47:43 pm นางสาววรัญญา สิงห์ป้อม sec.02 เลขที่69 รหัสนักศึกษา 115310903049-0
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติ วันที่11/01/54 เวลา 14.45 น. ณ หอศุภมาศ เทสลาคอยส์เรียกว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงทำงานที่มีความถี่หนึ่งที่เกิดจากการเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนียวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนียวนำก้อคือขดลวด เพราะในขดลวดก็คือตัวนำอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่านจุดผ่านศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ความจุไฟฟ้าและตัวต้านทาน ความถี่ของของวงจรไฟฟ้า คำนวนได้จาก ค่ำของตัวเก็บประจุ และค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวด พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: rungsan ที่ มกราคม 11, 2011, 03:03:05 pm นาย รังสรรค์ พัธกาล 115340441243-5 sec 17 เลขที่32 วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ วันที่ 11/1/54 เวลา 15.00 น. สถานที่หอพักโอนิน
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัว เหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: pitak ที่ มกราคม 11, 2011, 03:05:14 pm นายพิทักษ์ นงนวล รหัส 115330411018-8 sec 04 เลขที่ 15 ตอบกระทู้ที่ สวนสุทธิพันธ์ วันที่ 11/01/2554 เวลา 15.05 น. สรุปได้เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด
หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: chinnapot ที่ มกราคม 11, 2011, 03:09:14 pm นายชินพจน์ เดชเกษรินทร์ คณะ วิศวกรรมอุตสาหการ-การจักการ รหัส 115340441238-5 sec17 วันที่11/01/54 เวลา15.09 ณ ทรัพย์ถาวรอพาร์ทเม้นท์
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Nhamtoey ที่ มกราคม 11, 2011, 03:19:20 pm นางสาวเรวดี จันท้าว ภาควิชาวิศวกรรมโยธา รหัส 115330411006-3 sec 04 เลขที่6 ตอบกระทู้เมื่อวันที่ 11/01/2554 เวลา 15.19น. ที่ห้องสมุดมทร.ธัญบุรี
เทสลาคอยสื เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลง หม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุกความถี่คอนส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้า เป็นขดลวดที่ 2 สร้าขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน การเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยุ่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบ เส้นผ่านศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำความจุไฟฟ้า และความต้านทานต้องมีค่าพอดีจึงทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: ronachai ที่ มกราคม 11, 2011, 03:23:28 pm นายรณชัย รุกขวัฒน์ รหัส115330411002-2 เลขที่2 sec.4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา
เข้าตอบกระตู้เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2554 เวลา 15.22 น. ณ ตึกวิทยะบริการ เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: aecve ที่ มกราคม 11, 2011, 03:49:02 pm กระผม นายปรัชญา พรมอารักษ์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมโยธาต่อเนื่อง เลขที่ 26 sec. 4
รหัสประจำตัว 115330411032-9 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 11 เดือน มกราคม พ.ศ. 2554 ที่ หอพักโฟ บี 4 เวลา. 15.50 น มีความเห็น เทสลาบอล เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง ถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆัง เวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆัง เสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนัก แต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆัง จะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่ม อันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: IIKWANGSTSTII ที่ มกราคม 11, 2011, 05:15:57 pm นางสาวกิ่งกาญจน์ แสนคำ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาสถิติประยุกต์ sec 02 เลขที่ 54 รหัส 115310903031-8 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 11/01/2554 เวลา 17.14 สถานที่ Shooter Internet
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดคือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: bobo ที่ มกราคม 11, 2011, 05:18:06 pm นางสาวสุนิสา หมอยาดี sec.02 เลขที่74 รหัสนักศึกษา 115310903055-7
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติประยุกต์ วันที่11/01/54 เวลา 17.17 น. ณ บ้าน เทสลาคอยส์เรียกว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงทำงานที่มีความถี่หนึ่งที่เกิดจากการเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนียวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนียวนำก็คือขดลวด เพราะในขดลวดก็คือตัวนำอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่านจุดผ่านศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ความจุไฟฟ้าและตัวต้านทาน หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Penprapa ที่ มกราคม 11, 2011, 05:49:55 pm นางสาวเพ็ญประภา สุเพียร เลขที่ 40 รหัส 115210904029-3 วันที่ 11 มค 54 เวลา 17.48 น ณ วิทยะบริการ
สรุปว่า เทสลาคอยส์ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น โดยทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ การทำงาน เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: pool ที่ มกราคม 11, 2011, 08:42:44 pm นางสาวดาวประกาย แก้วเรือง นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเคมีสิ่งทอ รหัส 115210452059-6 SEC 2 เลขที่ 32
เรียนกับ อาจารย์จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้ วันที่ 11 มกราคม 2554 เวลา 20.42 น. ที่บ้าน มีความเห็นในกระทู้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง ถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆัง เวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆัง เสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนัก แต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆัง จะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่ม อันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: alicenine ที่ มกราคม 11, 2011, 08:46:52 pm นายเลิศศักดิ์ ศัลยวิเศษ นักศึกษาคณะวิศกรรมศาสตร์ สาขาเคมีสิ่งทอ รหัส 115210452021-6 เลขที่ 30
ตอบกระทู้ เมื่อ 11/01/54 เวลา 20.46 น. ที่ หอพัก คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ต่อขึ้นดังรูป ตัว เหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Kotchapan ที่ มกราคม 11, 2011, 09:03:07 pm นาย คชพันธ์ พงษ์ไพร นศ.คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา รหัสนักศึกษา 115330411048-5 เลขที่ 41 Sec.04
เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา วันที่ 11/01/2554 สถานที่ กิตติพงษ์แมนชั่น เวลา 21.04 น. เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศ เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมาก การทำงานเทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ หม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: pongpat ที่ มกราคม 11, 2011, 09:05:35 pm กระผมนายพงษ์พัฒน์ น้อยโพธิ์ นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec 4 เลขที่ 51 รหัส 115330441207-1
เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมาเข้ามาตอบกระทู้วันที่ 11 มกราคม 2554 ที่ บ้าน เวลา 21.05 น เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: THANAKIT ที่ มกราคม 11, 2011, 09:43:14 pm นายธนกฤต เฉื่อยฉ่ำ นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec.17
รหัส 115340441248-4 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่วันที่ 11 มกราคม 2554 เวลา 21.43 น. สถานที่ บ้าน เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัว เหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: suchart ที่ มกราคม 11, 2011, 09:51:02 pm กระผม นายสุชาติ สุวรรณวัฒน์ นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec.1เลขที่ 31
เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 11 มกราคม 2554 ที่ หอ เวลา 21.49 น. ความคิดเห็นว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: narongdach ที่ มกราคม 12, 2011, 02:10:44 am นายณรงค์เดช เพ็งแจ่ม คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 รหัสประจำตัว115340441220-3
ตอบกระทู้วันที่ 12/01/54 เวลา 02:10 น. สถานที่ อพาร์ทเม้นต์ เอกภาคย์ เมืองเอก เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัว เหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Kitti_CVE2 ที่ มกราคม 12, 2011, 10:38:09 am กระผม นาย กิตติ จิตนันทกุล นักศึกษาคณะ วิศวกรรมโยธา
sec 17 เลขที่ 8 รหัสประจำตัว 115340411113-6 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุญยธรรมา ตอบเมื่อวันที่ 12/01/54 เวลา 10.37 น. ณ.ที่ทำงาน เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: ratthasart ที่ มกราคม 12, 2011, 11:07:07 am ผมนายรัฐศาสตร์ ไชยโส นักศึกษาภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec 4
รหัส 115330441218-8 เลขที่ 61 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 12 มกราคม 2554 ที่ ห้องพัก เวลา 11.07 น มีความเห็นว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจาก ตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมาก หรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่า พอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่ง ความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้า ที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: natthapon ที่ มกราคม 12, 2011, 01:43:59 pm กระผมนายนัฐพล การคณะวงศ์ นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ sec 4
เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 12 มกราคน 2554 ที่ หอดู๊ดดรีม เวลา 13.47 น. เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: shanon_ie ที่ มกราคม 12, 2011, 01:50:12 pm นาย ชานนท์ วรรณพงษ์ เลขที่ 5 รหัส 115040441083-1 วิศวกรรมอุดสาหการ วันที่ 12/01/54 สถานที่ บ้าน เวลา 13.50 น. เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศ เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมากอย่างน่าตกใจ ! พวกสร้างภาพยนตร์วิทยาศาสตร์นิยมนำไปใช้ เมื่อพวกเขาต้องการให้ในภาพยนตร์ของเขามีฉากฟ้าผ่า หรือการสปาร์กของกระแสไฟฟ้า ยกตัวอย่างหนังเรื่องคนเหล็กภาค 2 (terminator II) ฉากเริ่มต้นที่หุ่นยนต์จากอนาคตเคลื่อนที่ผ่านมิติมาที่เวลาในปัจจุบัน ในเรื่องจะเห็นประกายไฟฟ้าสปาร์กขึ้นอย่างน่ากลัว และหุ่นยนต์ก็มาปรากฎกายขึ้น เบื้องหลังฉาก ผู้กำกับต้องไปติดต่อนักฟิสิกส์ ให้มาต่อเทสลาคอยส์ให้ :o :o หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Utchima ที่ มกราคม 12, 2011, 02:58:31 pm นางสาวอัจจิมา แขกสะอาด รหัส 115110905096-3 sec2 เลขที่23 เข้ามาตอบกระทู้ ที่บ้าน วันที่ 12 มกราคม 2554 เวลา 14.58น.
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุกๆความถี่ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวดเพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้วค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวดทั้งตัวเหนึ่ยวนำความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดีจึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่สองถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆังเวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆังเสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนักแต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆังจะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่มอันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: ittiwat ที่ มกราคม 12, 2011, 05:38:39 pm นายอิทธิวัตร จิตต์มั่นคงกุล คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติประยุกต์ รหัส 115310903037-5 เลขที่ 60 sec 2 วันที่12/01/54 เวลา 17.40 น. สถานที่ บ้าน
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: 00sunisa00 ที่ มกราคม 12, 2011, 06:03:54 pm น.ส.สุนิศา ชมมิ sec.2 เลขที่46 115310903001-1 สาขาสถิติ วันที่ 12 มกราคม 2554 เวลา 18.00 น. ที่ร้านอินเตอร์เน็ต
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์คอยส์ ขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทานตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Pathomphong ที่ มกราคม 12, 2011, 06:13:41 pm นายปฐมพงศ์ พูนปก วิศวกรรมโยธา รหัส 115330411043-6 Sec 04 เลขที่ 36
เรียนกับอาจารย์จรัส บุญยธรรมา วันที่ 12/01/54 เวลา 18:10 น. ที่หอพักลากูน เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "หม้อแปลงแบบเรโซแนนซ์" มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนซ์เท่านั้นไม่ใช่ทุกๆความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทานต่อขึ้น ตัวเหนี่ยวนำก็คือ ขดลวดเพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวดทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทานต้องมีค่าพอดีจึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนซ์ขึ้น หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Pichat Soysamrong ที่ มกราคม 12, 2011, 06:13:49 pm กระผม นาย พิเชษฐ์ สร้อยสำโรง นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา sec 4 รหัสประจำตัว 115330411003-0 เลขที่ 3
เรียนกับอาจารย์ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 12 เดือน มกราคม พ.ศ. 2554 ที่ เศรษฐบุตร พาวิลเลี่ยน 32/19 ม. 1 ต. คลองหก อ. คลองหลวง จ. ปทุมธานี เวลา 18.13 น. สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง ถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆัง เวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆัง เสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนัก แต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆัง จะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่ม อันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: sarisa ที่ มกราคม 12, 2011, 06:14:04 pm นางสาวสาริศา พรายระหาญ เลขที่ 13 sec 02 รหัสนักศึกษา 115110901018-1 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาคณิตศาสตร์
ตอบกระทู้วันที่12ม.ค.54 เวลา18.26น. ที่ร้านเน็ต เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดคือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: saowapha ที่ มกราคม 12, 2011, 06:18:24 pm นางสาวเสาวภา ล่วงพ้น คณะวิทยาศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ เลขที่ 14 รหัส 115110901082-7 sec.02
วันที่ 12/1/54 เวลา 18.31 น. สถานที่ shooter สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุกๆความถี่ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวดเพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้วค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวดทั้งตัวเหนึ่ยวนำความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดีจึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่สองถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆังเวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆังเสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนักแต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆังจะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่มอันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: iinuyashaa ที่ มกราคม 12, 2011, 06:38:43 pm นางสาววิภวานี แสงทอง นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาเคมี sec 02 รหัส 115210902118-6 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 12/1/2554 ที่บ้าน เวลา 18:38 น.
สรุปว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง ถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆัง เวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆัง เสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนัก แต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆัง จะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่ม อันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: sasithorn ที่ มกราคม 12, 2011, 07:47:45 pm นางสาว ศศิธร ลิ่มสกุล sec 02 รหัส 115309030102 เลขที่ 49 วันที่ 12/1/54 เวลา 19.38 ณหอใน
เทสลาคอยส์ เรียกว่า หม้อแปลงเเบบเรโซเเนนท์ หม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่ ที่เกิดการเรโซเเนนท์เท่านั้น ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซเเนนท์พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง พลังงานของขดลวดที่สองมาจากลวดขดที่หนึ่ง ซึ่งวลจรของขดลวดขดท่หนึ่งประกอบด้วย 1 หม้อแปลงไฟเเรงสูง 2 ความจุไฟฟ้า 3 ช่องว่าง 4 ขดลวด ทั้งหมดนี้เป็นวงจร ออสซิลเลต เมื่อเปิดไฟจ่ายกระเเสให้กับวงจรไฟฟ้า หม้แปลงไฟจะจ่ายไฟให้กับตัวเก็บประจุ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Thatree Srisawat ที่ มกราคม 12, 2011, 07:51:25 pm นายธาตรี ศรีสวัสดิ์ นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขา สถิติประยุกต์ sec 02 รหัส 115310903061-5 เลขที่ 77 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 12 มกราคม 2554เวลา19.50น. ที่บ้าน สรุปว่าเทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด
หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: boatvivi ที่ มกราคม 12, 2011, 08:44:01 pm นางสาวณัฎฐพร ชื่นสมบัติ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ sec 02 เลขที่ 1 115010451027-8 เวลา 20.43น. วันที่ 12 ม.ค. 2554 ที่บ้าน
ได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้แล้วค่ะ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: kranjana ที่ มกราคม 12, 2011, 09:39:03 pm นางสาวกาญจนา แสงวงศ์ สาขาชีววิทยา
sec 2 เลขที่ 45 รหัสประจำตัว 115210904068-1 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุญยธรรมา ตอบเมื่อวันที่ 12/01/54 เวลา 21.35 น. ณ.หอใน เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Piyarat Mounpao ที่ มกราคม 12, 2011, 09:47:52 pm นางสาวปิยะรัตน์ เหมือนเผ่า เลขที่ 42 รหัส 115210904050-9 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนลยี สาขาชีววิทยา วันที่ 12/01/54 เวลา21.47น. สถานที่ บ้าน
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: shanonfe11 ที่ มกราคม 12, 2011, 10:02:38 pm นายชานนท์ ชุมพร รหัส 115 เลขที่ 16 115210417028-5 sec 02 ตอบที่ หอฟ้าใส วันที่ 12ม.ค.54 เวลา 22.01 น.
เท สลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัว เหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: ยุพารัตน์ หยิบยก ที่ มกราคม 12, 2011, 10:19:16 pm นางสาวยุพารัตน์ หยิบยก นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาคณิตศาสตร์ sec2 รหัสประจำตัว 115110901011-6
เรียนกับอาจารย์จรัส บุณยธรรมา เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศ เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูง เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: namtan ที่ มกราคม 13, 2011, 12:44:15 am ดิฉัน นางสาวณัชชา ธิติบุญจันทร์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอาหาร
sec02 รหัสประจำตัว115210417055-8 เลขที่ 27 เรียนกับอาจารย์จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 13 เดือน มกราคม พ.ศ. 2554 ที่หอพักโอนิน3 เวลา 00.44น. ความรู้จากเนื้อหาที่ได้คือ เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่า หม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ต่อขึ้น ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Eakachai_ie ที่ มกราคม 13, 2011, 01:03:20 am นาย เอกชัย สงวนศักดิ์ นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ sec.2 เลขที่ 6
เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 13 มกราคม 2554 ที่ หอมาลีแมนชัน เวลา 01.05 น. ความคิดเห็นว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Pratanporn ที่ มกราคม 13, 2011, 05:05:36 am นายประทานพร พูลแก้ว รหัส115310903057-3 เลขที่75 sec02 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาสถิติประยุกต์ เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 13มกราคม 2554 เวลา 04:58 น. สถานที่บ้านของตนเอง
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนนซ์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนซ์ ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: assadawut ที่ มกราคม 13, 2011, 10:35:11 am กระผมนายอัษฎาวุฒิ ลำพา นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec 4 เลขที่47 รหัส 115330441202-2 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมาเข้ามาตอบกระทู้วันที่ 13 มกราคม 2554 ที่ บ้าน เวลา 10.35 น ความคิดเห้นว่า คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ต่อขึ้นดังรูป ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Kamphon ที่ มกราคม 13, 2011, 10:41:11 am นายกัมพล มิ่งฉาย นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์
เรียนกับผศ.จรัส บุณยธรรมา ตอบวันที่13-1-2011 เวลา 10.41น. ที่วิทยบริการ เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: siripornmuay ที่ มกราคม 13, 2011, 01:27:15 pm น.ส ศิริพร สนเผือก เลขที่ 70 sec 02 สาขา สถิติประยุกต์ วัน 13/01/54 เวลา 01.25 สถานที่ ร้านอินเตอร์เนต
เทสลาคอยส์เรียกว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงทำงานที่มีความถี่หนึ่งที่เกิดจากการเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนียวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนียวนำก้อคือขดลวด เพราะในขดลวดก็คือตัวนำอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่านจุดผ่านศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ความจุไฟฟ้าและตัวต้านทาน ความถี่ของของวงจรไฟฟ้า คำนวนได้จาก ค่ำของตัวเก็บประจุ และค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวด พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: sarayut sringam ที่ มกราคม 13, 2011, 02:15:24 pm กระผมนายศรายุธ สีงาม นศ.วิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec 4
รหัส 115330441201-4 เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 13 มกราคม 2554 ที่ ตึกวิทยบริการ เวลา 14.15น มีความคิดเห็นว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง ถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆัง เวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆัง เสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนัก แต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆัง จะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่ม อันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: udomporn ที่ มกราคม 13, 2011, 02:24:36 pm นาย อุดมพร พวงสุวรรณ รหัสนักศึกษา 115330411025-3 เลขที่ 19 sec 04 วิศกรรมโยธา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 13 มกราคม 2554 เวลา14.24 น. ที่หอลากูล
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุกๆความถี่ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวดเพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้วค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวดทั้งตัวเหนึ่ยวนำความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดีจึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่สองถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆังเวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆังเสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนักแต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆังจะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่มอันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: ศราวุธ พูลทรัพย์ ที่ มกราคม 13, 2011, 02:32:26 pm กระผมนายศราวุธ พูลทรัพย์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา รหัสนักศึกษา115330411042-8 กลุ่ม53341cve sec04 อาจารย์ผู้สอน อาจารย์จรัส บุณยธรรมา สถานที่ หอลากูล เวลา 14.32
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุกๆความถี่ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวดเพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้วค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวดทั้งตัวเหนึ่ยวนำความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดีจึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่สองถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆังเวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆังเสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนักแต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆังจะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่มอันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: mongkhonphan ที่ มกราคม 13, 2011, 03:11:27 pm นายมงคลพันธ์ แซ่หลี วิศวกรรมโยธา เลขที่ 32 รหัส 115330411039-4 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 13/01/54 เวลา 15.03 น. ที่หอพัก ลากูน
สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการ เรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: ponyotha ที่ มกราคม 13, 2011, 03:43:59 pm ผมนายวีรพล นุ่มน้อย เลขที่ 11 รหัส 115330411014-7 sce 4 วิศวกรรมโยธาต่อเนื่อง วันที่ 13/01/2554 เวลา 15.40 น. ตึกวิทยบริการ
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: titikron ที่ มกราคม 13, 2011, 03:52:06 pm นายฐิติกร แก้วประชา วิศวกรรมโยธาต่อเนื่อง sec 04 รหัส 115330411022-0 เลขที่ 17 เวลา 15.51 น. หอโฟรืบี
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: bear ที่ มกราคม 13, 2011, 03:55:01 pm นาย อุดม แก้วชู sec 4 รหัส 115330411034-5 โยธาต่อเนื่อง เลขที่ 28 วันที่ 13/1/54 เวลา 15.55 น. ที่ตึกวิทยบริการ
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: leonado_davinci ที่ มกราคม 13, 2011, 04:01:28 pm Jakrapong Mensin นายจักรพงศ์ เม่นสิน คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาโยธา รหัส 115330411015-4 sec 4 เลขที่ 12 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 13/1/54 เวลา 4.01 pm ที่ห้องสมุด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุกๆความถี่ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวดเพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้วค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวดทั้งตัวเหนึ่ยวนำความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดีจึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่สองถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆังเวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆังเสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนักแต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆังจะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่มอันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: toonpccphet ที่ มกราคม 13, 2011, 04:03:58 pm นายสุรเชษฐ ทองโฉม นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาสถิติประยุกต์ sec02 เลขที่ 65 รหัส 115310903044-1 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 13/01/2554 เวลา 16:03 ณ ห้องเรียน
สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนนท์ ความหมายทางฟิสิกส์คือ หม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดจากเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช้ทุกๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ค่าของความเปนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่านศูนย์กลาง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: suppachok ที่ มกราคม 13, 2011, 04:05:07 pm นาย ศุภโชค เปรมกิจ วิศวกรรมโยธา 115330411051-9 sec 04 เลขที่ 44 วันที่ 13/1/53 เวลา 16.05 น.ตึกวิทยะบริการ
คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ต่อขึ้นดังรูป ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: pollavat ที่ มกราคม 13, 2011, 06:01:17 pm กระผมนายพลวัฒน์ คำกุณา นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ sec 4
เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 13 มกราคม 2554 ที่ ตึกวิทยบริการ เวลา 18.02น มีความคิดเห็นว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่า หม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ต่อขึ้น ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Meena ที่ มกราคม 13, 2011, 06:38:17 pm นายพสิษฐ์ แดงอาสา นศ.วิศวกรรมโยธา รหัส 115330411011-3 Sec 4 ณ บ้านเลขที่ 231/135
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: PoxyDonZ ที่ มกราคม 13, 2011, 06:45:31 pm นาย สุรศักดิ์ ด้วงใจจิตร รหัส 115330411036-0 วิศวกรรมโยธา เวลา 06.46 pm. วันที่ 13 ม.ค. 54 สถานที่ หอร์ โฟร์บี 2
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง ถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆัง เวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆัง เสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนัก แต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆัง จะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่ม อันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: tum moment ที่ มกราคม 13, 2011, 07:25:01 pm ;D นายกิติศักดิ์ รัตนมณี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา 53341CVE sec.4 รหัสประจำตัว 115330411027-9
เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา วันที่ 13 มกราคม พศ.2554 ที่ตึกวิทยบริการ เวลา 19.25น. เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุกๆความถี่ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวดเพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้วค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวดทั้งตัวเหนึ่ยวนำความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดีจึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่สองถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆังเวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆังเสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนักแต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆังจะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่มอันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: potchapon031 ที่ มกราคม 13, 2011, 07:54:21 pm นายภชพน เกตุวงศ์ นักศึกษาวิศวกรรมโยธา หลักสูตรต่อเนื่อง3ปี รหัสนักศึกษา 115330411031-1
sec4 เลขที่ 25 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา สถานที่ กิตติพงศ์ แมนชั่น เทสลาคอยส์เรียกว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงทำงานที่มีความถี่หนึ่งที่เกิดจากการเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนียวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนียวนำก้อคือขดลวด เพราะในขดลวดก็คือตัวนำอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่านจุดผ่านศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ความจุไฟฟ้าและตัวต้านทาน ความถี่ของของวงจรไฟฟ้า คำนวนได้จาก ค่ำของตัวเก็บประจุ และค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวด พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: watchaiza ที่ มกราคม 13, 2011, 07:57:30 pm กระผม นายธวัชชัย พลรักษ์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา รหัสนักศึกษา115330411041-0 กลุ่ม53341cve sec04 อาจารย์ผู้สอน อาจารย์จรัส บุณยธรรมา สถานที่ บ้านพฤกษา 9 เวลา 19.57 เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุกๆความถี่ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวดเพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้วค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวดทั้งตัวเหนึ่ยวนำความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดีจึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่สองถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆังเวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆังเสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนักแต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆังจะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่มอันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์
หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Monthon ที่ มกราคม 13, 2011, 08:09:27 pm กระผม นายมณฑล รินชุมภู นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441206-2 เลขที่ 16 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 13 เดือน มกราคม พศ.2554 เวลา 20:08 น. สถานที่ บ้านพักที่วังน้อย
สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: oOGIG...k} ที่ มกราคม 13, 2011, 08:18:28 pm นายชำนาญกิจ ศิริยานนท์ เลขที่ 4 sec 04 นศ.วิศวกรรมโยธา รหัส115330411004-8 วัน 13/01/54 เวลา08:18:01 pm สถานที่ หอเศรษฐบุตร
เทสลาคอยส์เรียกว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงทำงานที่มีความถี่หนึ่งที่เกิดจากการเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนียวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนียวนำก้อคือขดลวด เพราะในขดลวดก็คือตัวนำอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่านจุดผ่านศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ความจุไฟฟ้าและตัวต้านทาน ความถี่ของของวงจรไฟฟ้า คำนวนได้จาก ค่ำของตัวเก็บประจุ และค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวด พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Thaweesak ที่ มกราคม 13, 2011, 09:01:38 pm นาย ทวีศักดิ์ ธนทรัพย์ทวี วิศวกรรมโยธา รหัส 115330411008-9 sec04 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 13/01/54 เวลา 21.02 น. ที่หอพัก มาลีแมนชั่น
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: civil kang ที่ มกราคม 13, 2011, 10:49:08 pm นาย สราวุฒิ ดีดวงพันธ์ 115330411028-7 sec 4 วิศวกรรมโยธา วันที่ 13/1/2554 22:49
สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศ เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมากอย่างน่าตกใจ เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: sarayut ที่ มกราคม 13, 2011, 10:59:08 pm นาย ศรายุทธ เที่ยงแท้ วิศวกรรมโยธา 115330411001-4 sec 04 เลขที่ 1 วันที่ 13/1/53 เวลา 22.59 น. หอพัก
ได้มีข้อคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า เทสลาคอยส์หรือหม้อแปลงแบบเรโซแนท์นั้นเป็นหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่ทำให้เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ โดยกาทำงานนั้นจะทำการป้อนพลังงานให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่หนึ่ง และต้องเป็นการป้อนพลังงานที่มีความต่อเนื่องและมีความถี่เท่ากัน ถึงจะทำให้เกิดการเรโซเเนนท์ได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Thamanoon ที่ มกราคม 13, 2011, 11:03:30 pm ผมนายธรรมนูญ พุทธวงษ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา รหัส 115330411009-7 เลขที่ 9 sec 4
เรียนกับ อ. จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่่ 13 มกราคม 2554 ที่ บ้านเช่า ซอยอีสเทิร์น เวลา 23.03 น. มีความคิดเห็นว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้น เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง ถ้าเปรียบเทียบกการตีระฆัง เวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆัง เสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนัก แต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับ การสั่นของระฆัง จะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่ม อันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Suphakorn ที่ มกราคม 13, 2011, 11:12:29 pm กระผมนาย สุภากร หงษ์โต นศ.คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ รหัสนักศึกษา 115330441211-3 Sec.04
เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่ 13 มกราคม 2554 เวลา 23.12 น. ที่หอพัก gooddream มีความคิดเห็นว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: kangsachit ที่ มกราคม 13, 2011, 11:24:17 pm นายกังสชิต จิโน นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาโยธา รหัส 115330411017-0 sec 4 เลขที่ 14 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 13/1/54 เวลา 23.24 pm หอมาลีแมนชั่น
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: sangtawee ที่ มกราคม 13, 2011, 11:28:58 pm กระผมนายแสงทวี พรมบุตร นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา รหัสนักศึกษา115330411035-2 กลุ่ม53341cve sec04 อาจารย์ผู้สอน อาจารย์จรัส บุณยธรรมา
ได้เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 13/01/2554 ที่หอพักFourB5 เวลา23.28 น. สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: ณัฐพงษ์ สันทะ ที่ มกราคม 14, 2011, 12:08:19 am กระผม นาย ณัฐพงษ์ สันทะ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมอุตสาหการ - การจัดการ sec 4 รหัสประจำตัว 115330441216-2
เรียนกับอาจารย์ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่_14 เดือน_01 พศ_2554 ที่(ชื่อหอพัก/ชื่อบ้านพัก)_ประสงค์ เวลา_00.08 มีความเห็นว่า/มีข้อคิดเห็นว่า/ความรู้จากเนื้อหาที่ได้ คือ เทสลาคอยส์หรือหม้อแปลงแบบเรโซแนท์นั้นเป็นหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่ทำให้เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ โดยกาทำงานนั้นจะทำการป้อนพลังงานให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่หนึ่ง และต้องเป็นการป้อนพลังงานที่มีความต่อเนื่องและมีความถี่เท่ากัน ถึงจะทำให้เกิดการเรโซเเนนท์ได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: tongchai ที่ มกราคม 14, 2011, 01:56:29 pm ผมนาย ธงชัย ฉิมสุด นักศึกษาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) sec 17 รหัส 115340441240-1 เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 14 มกราคม 2554 ณ หอพักโพธิ์ทอง เวลา 13.55 น
คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้น เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง ถ้าเปรียบเทียบกการตีระฆัง เวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆัง เสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนัก แต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับ การสั่นของระฆัง จะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่ม อันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: opisit ที่ มกราคม 14, 2011, 08:31:46 pm กระผม นาย พิสิทธิ์ สอนเทศ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาสตร์ sec 17 รหัสประจำตัว 115340441207-0
เรียนกับอาจารย์ ผ.ศ. จรัส บุณยธรรม เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 14 เดือน มกราคม พ.ศ. 2554 ที่บ้าน เวลา20:30 มีความเห็นว่า/มีข้อคิดเห็นว่า/ความรู้จากเนื้อหาที่ได้ คือ เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: รัฐพล เกตุอู่ทอง ที่ มกราคม 14, 2011, 08:47:29 pm กระผม นายรัฐพล เกตุอู่ทอง นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441229-4 เลขที่ 26 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 14 เดือน มกราคม พศ.2554 เวลา 20:47 น. สถานที่ หอพักเฉลิมพล
สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: pichet ที่ มกราคม 14, 2011, 09:25:07 pm กระผมนายพิเชษฐ์ จันทร์โสภา นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา sec 4 รหัสประจำตัว 115330411044-4 เลขที่ 37 วันที่ 14/01/54 เวลา 21.27 น.
เรียนกับอาจารย์ ผศ.จรัส บุณยธรรมา ได้มีข้อคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า เทสลาคอยส์หรือหม้อแปลงแบบเรโซแนท์นั้นเป็นหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่ทำให้เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ โดยกาทำงานนั้นจะทำการป้อนพลังงานให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่หนึ่ง และต้องเป็นการป้อนพลังงานที่มีความต่อเนื่องและมีความถี่เท่ากัน ถึงจะทำให้เกิดการเรโซเเนนท์ได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: siwasit ridmahan ที่ มกราคม 14, 2011, 10:09:51 pm นายสิวะสิทธิ์ ฤทธิ์มะหันต์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ 53444INE sec.17 รหัสประจำตัว 115340441244-3
เรียนกับ ผศ.จรัส บุณยธรรมา วันที่ 14 มกราคม 2554 ที่หอพักเฉลิมพล เวลา22.09 น. เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: thanathammarat ที่ มกราคม 14, 2011, 10:49:46 pm นายปรัชญาพล ธนาธรรมรัตน์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 เลขที่ 14 รหัสประจำตัว115340441204-7 ตอบกระทู้วันที่ 14-01-2554 เวลา 22:49 น. สถานที่ บริษัท Siam lemmerz
เนื้อหาสรุปได้ว่า... เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัว เหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: sompol w. 53444 INE ที่ มกราคม 14, 2011, 11:35:37 pm :) กระผม นายสมพล วงศ์ไชย คณะ วิศวกรรมอุตสาหการ sec 17 รหัสนักศึกษา 115340441208-8
เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้าตอบกระทู้วันที่ 14 เดือน มกราคม พศ.2554 ที่ จันทร์เพ็ญอพาร์ทเมนท์ เวลา 23:36 เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: hatorikung_nutt ที่ มกราคม 15, 2011, 03:54:32 pm นายพงษ์ศักดิ์ เลิศศรี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 เลขที่19 รหัสประจำตัว115340441209-6
อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่ 15/01/54 เวลา15.54ณ ตึกIt rmutt คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: bankclash032 ที่ มกราคม 15, 2011, 05:44:24 pm กระผม นาย สุริยพงศ์ ทองคำ นักศึกษาคณะวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ
sec 17 เลขที่ 24 รหัสประจำตัว115340441221-1 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุญยธรรมา ตอบเมื่อวันที่ 15/1/54 เวลา17.45 น. ณ.หอประสงค์ :Dเทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์ เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: attakron006@hotmail.com ที่ มกราคม 15, 2011, 07:14:55 pm กระผม นาย อรรถกร จิตรชื่น นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441217-9 เลขที่ 22 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 15 เดือน มกราคม พศ.2554 เวลา 19.14 น. สถานที่ บ้านฟ้ารังสิต
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัว เหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: LeeOa IE'53 SEC.17 ที่ มกราคม 15, 2011, 11:50:58 pm กระผม นาย สุธี มีอำมาตย์ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) เลขที่ 15 SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441205-4
เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 15 เดือน มกราคม พศ.2554 เวลา 11:55 PM. สถานที่บ้านพักที่วังน้อย เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศ เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมากอย่างน่าตกใจ ! พวกสร้างภาพยนตร์วิทยาศาสตร์นิยมนำไปใช้ เมื่อพวกเขาต้องการให้ในภาพยนตร์ของเขามีฉากฟ้าผ่า หรือการสปาร์กของกระแสไฟฟ้า ยกตัวอย่างหนังเรื่องคนเหล็กภาค 2 (terminator II) ฉากเริ่มต้นที่หุ่นยนต์จากอนาคตเคลื่อนที่ผ่านมิติมาที่เวลาในปัจจุบัน ในเรื่องจะเห็นประกายไฟฟ้าสปาร์กขึ้นอย่างน่ากลัว และหุ่นยนต์ก็มาปรากฎกายขึ้น เบื้องหลังฉาก ผู้กำกับต้องไปติดต่อนักฟิสิกส์ ให้มาต่อเทสลาคอยส์ให้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: sathian757 ที่ มกราคม 16, 2011, 01:09:48 am นาย เสถียร ปานามะเส คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการ-การจัดการ sec.17 รหัสประจำตัว115340441203-9
ตอบกระทู้วันที่ 16/01/54 เวลา 01:08 น. สถานที่ หอพัก นวนคร สรุป : เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Prachija ที่ มกราคม 16, 2011, 06:57:14 am กระผม นาย ประชิด จันทร์พลงาม นักศึกษาคณะ วิศวกรรมโยธา sec 17 รหัสประจำตัว 115340411110-2
เรียนกับอาจารย์ จรัส บุญยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 16 เดือน มกราคม พศ 2554 ที่ บ้านพัก เวลา 6.157 น. มีความเห็นว่า/มีข้อคิดเห็นว่า/ความรู้จากเนื้อหาที่ได้ คือ เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง ถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆัง เวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆัง เสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนัก แต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆัง จะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่ม อันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: sathian757 ที่ มกราคม 16, 2011, 07:50:47 am นายชัยยันต์ นุยืนรัมย์ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441215-3 เลขที่ 21เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 16 เดือน มกราค พศ.2554 เวลา 07:49น. สถานที่ ห้องพักนวนคร
สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Benjawan Onnual ที่ มกราคม 17, 2011, 03:27:43 pm นางสาวเบญจวรรณ อ่อนนวล เลขที่ 55 sec 02 รหัส 1153109030326 สาขาสถิติประยุกต์ ตอบกระทู้เมื่อ 17/1/2554 เวลา 15.27 น. ณ หอพักนำรงค์แมนชัน
สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Khuarwansiriruk ที่ มกราคม 19, 2011, 08:34:59 pm นางสาวเครือวัล ศิริรักษ์ เลขที่ 62 ID:115310903039-1 sec 02 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถิติประยุกต์ เวลา 8.34 pm. วันที่ 19-1-54 กิติพงศ์แมนชั่น สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดคือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้ เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกัน กับความถี่ของขดลวดขดที่สอง ::)
หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: rungarun ที่ มกราคม 22, 2011, 10:50:53 pm นายรุ่งอรุณ แย้มประดิษฐ์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาอุตสาหการ-การจัดการ sec 17 รหัสประจำตัว 115340441246-8 เลขที่ 36 วันที่ 22/01/54 เวลา 22.51 น. เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศ เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมากอย่างน่าตกใจ ! พวกสร้างภาพยนตร์วิทยาศาสตร์นิยมนำไปใช้ เมื่อพวกเขาต้องการให้ในภาพยนตร์ของเขามีฉากฟ้าผ่า หรือการสปาร์กของกระแสไฟฟ้า ยกตัวอย่างหนังเรื่องคนเหล็กภาค 2 (terminator II) ฉากเริ่มต้นที่หุ่นยนต์จากอนาคตเคลื่อนที่ผ่านมิติมาที่เวลาในปัจจุบัน ในเรื่องจะเห็นประกายไฟฟ้าสปาร์กขึ้นอย่างน่ากลัว และหุ่นยนต์ก็มาปรากฎกายขึ้น เบื้องหลังฉาก ผู้กำกับต้องไปติดต่อนักฟิสิกส์ ให้มาต่อเทสลาคอยส์ให้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: satawat ที่ มกราคม 23, 2011, 06:32:49 pm กระผม นาย ศตวรรษ รัตนภักดี นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ เลขที่ 34 SEC.02 รหัสประจำตัว 115210441263-8
เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 18.32 สถานที่บ้าน มีความเห็นว่า เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศ เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมากอย่างน่าตกใจ ! พวกสร้างภาพยนตร์วิทยาศาสตร์นิยมนำไปใช้ เมื่อพวกเขาต้องการให้ในภาพยนตร์ของเขามีฉากฟ้าผ่า หรือการสปาร์กของกระแสไฟฟ้า ยกตัวอย่างหนังเรื่องคนเหล็กภาค 2 (terminator II) ฉากเริ่มต้นที่หุ่นยนต์จากอนาคตเคลื่อนที่ผ่านมิติมาที่เวลาในปัจจุบัน ในเรื่องจะเห็นประกายไฟฟ้าสปาร์กขึ้นอย่างน่ากลัว และหุ่นยนต์ก็มาปรากฎกายขึ้น เบื้องหลังฉาก ผู้กำกับต้องไปติดต่อนักฟิสิกส์ ให้มาต่อเทสลาคอยส์ให้ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: chatchai ที่ มกราคม 26, 2011, 04:01:17 pm กระผม นาย ฉัตรชัย กล่อมเกลี้ยง นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441232-8 เลขที่ 28 เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่
26 เดือน มกราคม พศ.2554 เวลา 16.01 น. สถานที่ หอพัก 4B สรุปว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัว เหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: m_japakiya ที่ มกราคม 31, 2011, 11:39:22 am นาย มูฮำหมัดนาวี จะปะกียา เลขที่ 2 sec 17 รหัส 115340411104-5 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชา วิศวกรรมโยธา ณ บ้าน จรัญสนิทวงศ์ 31-01-54 เวลา 11.39 น.
เรียนกับอาจารย์ ผศ.จรัส บุณยธรรมา เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุกๆความถี่ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวดเพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้วค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวดทั้งตัวเหนึ่ยวนำความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดีจึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนนท์ขึ้นได้เพื่อจะให้ขดลวดขดที่สองเกิดการเรโซแนนท์ พลังงานที่ป้อนให้กลับขดลวดขดที่สองจะต้องมีความถี่เดียวกันกับความถี่ของขดลวดขดที่สองถ้าเปรียบเทียบกับการตีระฆังเวลาคุณตีระฆังด้วยไม้หรือฆ้อนถ้าคุณตึเร็วหรือช้าไปไม่สอดคล้องกับการสั่นของระฆังเสียงของระฆังจะไม่ดังกังวาน และดังไม่มากนักแต่ถ้าคุณตีระฆังอย่างต่อเนื่องให้มีความถี่เดียวกับการสั่นของระฆังจะได้เสียงที่กังวานและดังกระหึ่มอันนี้คือปรากฎการณ์เรโซแนนท์ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: suradet phetcharat ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2011, 12:48:00 pm นายสุรเดช เพ็ชรรัตน์ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา CVE2 Sec17 เลขที่ 9 รหัส 115340411115-1
ผศ.จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 12.48 น.Office สำนักงานบริษัทไทยวัฒน์ เทสลาคอยส์เรียกว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงทำงานที่มีความถี่หนึ่งที่เกิดจากการเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนียวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนียวนำก้อคือขดลวด เพราะในขดลวดก็คือตัวนำอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่านจุดผ่านศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ความจุไฟฟ้าและตัวต้านทาน ความถี่ของของวงจรไฟฟ้า คำนวนได้จาก ค่ำของตัวเก็บประจุ และค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวด พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดขดที่สอง หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: chaiyun ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2011, 05:15:52 pm นายชัยยันต์ นุยืนรัมย์ นักศึกษาคณะ วิศวกรรมศาตร์ สาขา อุตสาหการ-การจัดการ (สมทบ) SEC.17 รหัสประจำตัว 115340441215-3 เลขที่ 21เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา เข้ามาตอบกระทู้วันที่ 04 เดือน กุมภาพันธ์ พศ.2554 เวลา 17:14น. สถานที่ ห้องพักนวนคร
สรุปได้ว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: watit ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2011, 03:41:32 pm กระผมชื่อนายวาทิต บุพศิริ นักศึกษา CVE2 สมทม SEC 17 รหัส 115340411106-0
เข้ามาตอบเมื่อ 5/02 /2011 เวลา 3.40pm. ที31/1859 มบ.พฤกษา12-รังสิตคลองสาม เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนนท์เท่านั้น ไม่ใช่ทุกๆความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สอง สร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ต่อขึ้นดังรูป ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าของความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนึ่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่ หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: thabthong ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2011, 06:52:52 pm กระผมนาย รัตชานนท์ ทับทอง นศ.คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ รหัสนักศึกษา 115330441203-0 Sec.04
เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา ตอบกระทู้วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 18.52 น. ที่วิทยะ สรุปว่า เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัว เหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุและตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำคือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบ เส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้าและความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น ความถี่ของวงจรไฟฟ้า คำนวณได้จาก ค่าของตัวเก็บประจุและค่าของความเหนี่ยวนำ ให้ปรับแต่งความถี่ทางขดลวดที่หนึ่งจนความถี่เท่ากับอันที่สอง พลังงานจะถูกถ่ายโอนจากขดลวดขดที่หนึ่งข้ามไปขดลวดที่สอง ทำให้มีแรงดันไฟฟ้าที่จะสปาร์กออกจากปลายขดลวด หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: Kitiwat ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2011, 01:53:43 am นายกิติวัฒน์ ศรประสิทธิ์ เลขที่ 24 รหัส 115330411030-3 วิศวกรรมโยธา sec 4
เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: NISUMA ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2011, 11:44:28 am นางสาวนิสุมา พรมนวล รหัส115110901010-8 เลขที่8 sec02 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาคณิตศาสตร์ เทสลาคอยส์เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า หม้อแปลงแบบเรโซแนท์ มีความหมายทางฟิสิกส์ว่าหม้อแปลงนี้ทำงานที่ความถี่หนึ่งที่เกิดการเรโซแนท์เท่านั้นไม่ใช่ทุก ๆ ความถี่ คอยส์หรือขดลวดที่ทำให้เกิดประกายไฟฟ้าเป็นขดลวดตัวที่สองสร้างขึ้นจากตัวเหนี่ยวนำ ตัวเก็บประจุ และตัวต้านทาน ตัวเหนี่ยวนำก็คือขดลวด เพราะขดลวดก็คือตัวเหนี่ยวนำในตัวอยู่แล้ว ค่าความเหนี่ยวนำจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ จำนวนรอบเส้นผ่าศูนย์กลาง และความยาวของขดลวด ทั้งตัวเหนี่ยวนำ ความจุไฟฟ้า และความต้านทาน ต้องมีค่าพอดี จึงจะทำให้เกิดความถี่เรโซแนท์ขึ้น หัวข้อ: Re: เทสลาบอล เริ่มหัวข้อโดย: อภิรักษ์ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2011, 01:13:31 am นายอภิรักษ์ มีศิลป์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ-การจัดการ Sec.04
เรียนกับอาจารย์ จรัส บุณยธรรมา ตอบวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เวลา 01:13 น. ที่หอพัก AP แมนชั่น มีความคิดเห็นว่า เทสลาคอยส์ เป็นหม้อแปลงที่อาศัยหลักการเรโซแนนท์ในวงจรไฟฟ้า โดยมีแกนเป็นอากาศ เทสลาคอยส์สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้สูงมากอย่างน่าตกใจ ! พวกสร้างภาพยนตร์วิทยาศาสตร์นิยมนำไปใช้ เมื่อพวกเขาต้องการให้ในภาพยนตร์ของเขามีฉากฟ้าผ่า หรือการสปาร์กของกระแสไฟฟ้า ยกตัวอย่างหนังเรื่องคนเหล็กภาค 2 (terminator II) ฉากเริ่มต้นที่หุ่นยนต์จากอนาคตเคลื่อนที่ผ่านมิติมาที่เวลาในปัจจุบัน ในเรื่องจะเห็นประกายไฟฟ้าสปาร์กขึ้นอย่างน่ากลัว และหุ่นยนต์ก็มาปรากฎกายขึ้น เบื้องหลังฉาก ผู้กำกับต้องไปติดต่อนักฟิสิกส์ ให้มาต่อเทสลาคอยส์ให้ |