 |
โอห์ม ผู้ค้นพบไฟฟ้า
windows media
ขนาด 3.2 MB
คลิกครับ |
จุดเริ่มต้นของโทรทัศน์
ปี 1880 โอห์ม และ
เฮิรตซ์ ได้ค้นพบธรรมชาติของไฟฟ้า ไม่นานนัก เซอร์ อเล็กซานเดอร์
เกรเฮมเบลล์ และ เอดิสัน ก็ได้ประดิษฐ์โทรศัพท์ และหลอดไฟ
ต่อมาในปี 1886 มาร์โคนี
สามารถส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าผ่านอากาศได้ เกิดโทรเลขไร้สายขึ้น
ต้นคริสตรวรรษที่ 19
เด็กหนุ่มยากจนวัย 14 ปี นาย ฟิลโล ฟรานเวิดท์
( Philo Farnsworth )
แสดงแบบจำลองโทรทัศน์เป็นครั้งแรกของโลก บนกระดานให้กับคุณครู
ได้ดูที่หน้าชั้น ความคิดของ ฟรานเวิดท์ สามารถสรุปได้ดังนี้
_____________________________
หลังจากเรียนได้ 1 ปี
พ่อของเขาเสียชีวิต ทำให้เขาต้องลาออกจากโรงเรียนเพื่อหางานทำ |
 |
DAVID SARNOFF
windows media
ขนาด 4.7 MB
คลิกครับ
|
ผู้ทุ่มเทให้กับโทรทัศน์
เดวิด ซาร์นอฟฟ์ (DAVID SARNOFF)
เด็กหนุ่มชาวรัสเซีย หนีความยากจนจากชนบท
เข้ามาสมัครเป็นเด็กฝึกงานกับ มาร์โคนี ผู้ประดิษฐ์โทรเลขไร้สาย วันที่
15 เมษายน 1912
ขณะที่ซาร์นอฟฟ์ทำงานอยู่ เขาได้รับสัญญาณโทรเลขไร้สาย
ขอความช่วยเหลือจากเรือไททานิก ซึ่งกำลังจมอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก
ซาร์นอฟฟ์กับบริษัท RCA
ได้ทำงานร่วมกันในธุรกิจวิทยุ ซึ่งกำลังบูมอย่างมาก อีกฟากหนึ่งของทวีป
ฟรานเวิดท์ กำลังหมกหมุ่นอยู่กับประดิษฐ์กรรมโทรทัศน์
โดยเริ่มจากการเป่าแก้ว
ในขณะนั้นเขาไม่ได้เป็นนักประดิษฐ์คนเดียวที่สนใจกับโทรทัศน์
มีหลายคนที่ทำอยู่ หนึ่งในจำนวนนั้นคือ สวารีกิน
(Zworykin) |
Philo Farnsworth |
Zworykin |
windows media
ขนาด 6.6 MB
คลิกครับ |
ผู้กำเนิดโทรทัศน์อันแท้จริง
ขณะนั้นโทรทัศน์แยกออกเป็น 2
ระบบ คือ 1.
ระบบกลไก 2. ระบบอิเล็กทรอนิกส์
1920 ซาร์นอฟฟ์ได้เป็นผู้บริหารระดับสูงของ
RCA
ซาร์นอฟฟ์กับสวารีกินได้ร่วมมือกันพัฒนาระบบโทรทัศน์แบบอิเล็กทรอนิกส์
ฟรานเวิดท์ กับ
สวารีกินไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว โดยทำงานอยู่กันคนละที่กัน
ฟรานเวิดท์มาที่ซานฟรานซิสโกโดยได้รับการสนับการเงินจากนายธนาคารคนหนึ่ง
รอจนถึงปี 1925 ฟรานเวิดท์จัดการสาธิตครั้งใหญ่
โดยเชิญผู้มีชื่อเสียงมาดูในวันเปิดงาน แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงเวลาจริง
ระบบไม่ทำงาน ทำให้คนส่วนใหญ่ยิ่งไม่สนใจในโทรทัศน์ สื่อมวลชนเมินหน้า
สงครามลิขสิทธิ์
ทั้งซาร์นอฟฟ์และสวารีกิน
พัฒนาโทรทัศน์อย่างน่าพอใจ RCA
เริ่มจำหน่ายโทรทัศน์เป็นระบบธุรกิจ แต่ติดปัญหาลิขสิทธ์ ว่า
สวารีกินหรือฟรานเวิดท์กันแน่ที่เป็นผู้ประดิษฐ์โทรทัศน์
จึงมีการฟ้องร้องอ้างลิขสิทธ์กัน ศาลได้ตัดสิน
โดยใช้หลักฐานสมัยที่ฟรานเวิดท์เสนอแบบจำลองโทรทัศน์ในชั้นเรียน
จึงให้ฟรานเวิดท์เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ RCA จึงต้องขอซื้อสิทธิบัตรจากฟรานเวิดท์เพื่อนำไปพัฒนาด้วยตนเอง
ด้วยเหตุนี้ทำให้ซาร์นอฟฟ์ไม่ชอบขี้หน้าฟรานเวิดท์ |
 |
สงครามโทรทัศน์กับวิทยุ
windows media
ขนาด 6.5 MB
คลิกครับ
|
สงครามกับวิทยุ
บริษัท RCA
ราชาแห่งคลื่นวิทยุ โดยมีซานอฟฟ์เป็นผู้กุมบังเหียน มีความฝันว่า
ภายในทศวรรษหน้าจะทำให้ทุกครัวเรือนในอเมริกามีโทรทัศน์ใช้
เพราะเขาเชื่อในตัว สวารีกิน ขณะนั้นความนิยมของวิทยุมีมากมาย
และซานอฟฟ์ยังต้องเจอกับคู่แข่งทางวิทยุอย่างเครือข่าย CBS
7 กรกฎาคม 1936
การถ่ายทอดโทรทัศน์ขั้นทดลองเริ่มต้นขึ้น
โดยเชิญสื่อมวลชนแขนงต่างๆเข้ามาชมดู หลังจากจบการถ่ายทอด
สื่อมวลชนแตกออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เห็นด้วย
และส่วนที่ไม่เห็นด้วย ส่วนที่เห็นด้วยเชื่อในอนาคตของโทรทัศน์
ส่วนที่ไม่เห็นด้วย บอกว่า โทรทัศน์คืออะไรที่ไม่มีความจำเป็น
1940 ละครเรื่อง
Streets of New york
ได้รับการถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์เป็นครั้งแรกของโลก
ขณะนั้นไม่มีใครสนใจโทรทัศน์เท่าไรนัก ส่วนใหญ่สนใจแต่วิทยุมากกว่า
ในปีเดียวกันนั้น งาน World Fair
ถูกจัดขึ้นในนิวยอร์ค มีนวัตกรรมใหม่ๆมากมายนำไปแสดง
หนึ่งในจำนวนนั้นคือโทรทัศน์ สาธารณชนแตกตื่นกันยกใหญ่กับเทคโนโลยีนี้
เพราะส่วนใหญ่ยังไม่เคยเห็นด้วยตาตนเอง
หน่วยงานกลางของรัฐบาล ย่อเป็น FCC
ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อควบคุมและจัดสรร คลื่นโทรทัศน์
หน่วยงานนี้บีบ บริษัท RCA
ไม่ให้เป็นผู้ผูกขาดโทรทัศน์แต่เพียงรายเดียว |
 |
สงครามโลกครั้งที่สอง
windows media
ขนาด 2.8 MB
คลิกครับ |
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
1940
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
โทรทัศน์กลายเป็นสิ่งผักผ่อนหย่อนใจที่คนอเมริกาต้องการ และขาดไม่ได้เสียแล้ว
บริษัท RCA ขายโทรทัศน์อย่างสนุกสนาน
และร่ำรวยจากธุรกิจนี้ ในตอนนั้น บริษัท ดูมองต์
(Dumont) ได้ก้าวขึ้นมาแข่งขันกันในธุรกิจโทรทัศน์
โดยที่ RCA ใช้ระบบโทรทัศนฺ 450
เส้น ส่วนของดูมองต์ ใช้ 600
เส้น หน่วยงานกลาง FCC
จึงต้องตัดสินว่าจะใช้ระบบของบริษัทใดเป็นมาตรฐาน
ตอนนี้ซานอฟฟ์วิ่งเข้าหาประธานาธิบดี เพื่อกดดันให้ FCC
เลือกระบบของเขา ในที่สุดประสพความสำเร็จ
ระบบของเขาได้รับการอนุมัติ
1941
ซานอฟฟ์ร่วมมือกับดูมองต์ จัดการถ่ายทอดการแข่งขันเบสบอลระดับชาติ
ปรากฎว่าประสพความสำเร็จเป็นอย่างสูง วันเดียวกันนั้น ที่บาร์เบียร์
ห้างสรรพสินค้า และตู้โชว์สินค้า มีแต่คนมุงดูโทรทัศน์
แทบจะไม่มีคนเดินอยู่เลยบนท้องถนน |
 |
นักรบผู้จำหน่ายโทรทัศน์
windows media
ขนาด 4.3 MB
คลิกครับ
|
นักรบขายโทรทัศน์
1948
เซลขายรถจากลอสแองเจอลิส ได้ลองประกอบโทรทัศน์ด้วยตนเอง
และนำออกขายในราคาถูก ทำให้คนแห่ซื้อกันมากมาย อย่างบ้าคลั่ง
บริษัทยักษ์ใหญ่ต้องลดราคาโทรทัศน์ของตนเองตามด้วย
ในขณะนี้มีดาราบนจอแก้วเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในจำนวนนั้น คือมารีรีน มอนโร
1950
มีโทรทัศน์อยู่ทั่วอเมริกาอยู่ 11 ล้านเครื่อง
ทุกเครื่องเป็นโทรทัศน์ขาวดำ ทั้ง CBS , RCA และ
ดูมองต์ ใช้วิศวกรของตนพัฒนาโทรทัศน์สี สงครามโทรทัศน์สีจึงอุบัติขึ้น
นายแพรี่ ได้ออกโทรทัศน์สีระบบกลไก แข่งขันกับโทรทัศน์ขาวดำของซานอฟฟ์
ซึ่งหวังว่า ซานอฟฟ์จะพ่ายแพ้
แต่ซานอฟฟ์ตอบโต้ว่าโทรทัศน์สีระบบกลไกเข้าไม่ได้กับโทรทัศน์ขาวดำที่มีอยู่แล้วเป็นล้านเครื่องในตอนนั้น
ซึ่ง RCA ก็ยังไม่มีโทรทัศน์สีของตนเอง |
 |
Sanoff กับ บิลเกต
windows media
ขนาด 4.5 MB
คลิกครับ
|
การพัฒนาของโทรทัศน์
1950 ช่วงสงครามเย็น
ซานอฟฟ์ทำงานร่วมกับวิศวกรใน RCA
แบบไม่ได้หลับได้นอน
ไม่นานนักจึงสามารถพัฒนาระบบโทรทัศน์สีแบบอิเล็กทรอนิกส์ของตนเองสำเร็จ
ระบบของซานอฟฟ์มีหลักการดังนี้
___________________
FCC ประกาศให้ระบบของซานอฟฟ์เป็นระบบมาตรฐาน
ถึงตอนนี้บริษัท RCA
ก็ร่ำรวยขึ้นอีกจากธุรกิจโทรทัศน์สี คนอเมริกาติดโทรทัศนกันอย่างงอมแงม
และเชื่อสิ่งต่างๆที่โทรทัศน์สื่อสารออกมา
2 พฤศจิกายน
1959 ผู้เข้าแข่งขันตอบปัญหาทางโทรทัศน์รายหนึ่ง
พิชิตเงินรางวัลไปได้ 129,000 เหรียญ
เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐว่า เขาได้รับคำตอบล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว
นับเป็นครั้งแรกที่มี การโกหกตอแหล
ผ่านทางโทรทัศน์
ซานอฟฟ์ยังพัฒนาโทรทัศน์ให้สามารถส่งผ่านข้ามทวีปได้
ความสำเร็จนั้นมากมายมหาศาล ยกตัวอย่างเช่น
การลอบสังหารประธาธิบดีแคนาดี้ คนทั้งประเทศจับจ้องอยู่หน้าจอ
มีอารมณ์เดียวกันผ่านทางโทรทัศน์ นับเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
สำหรับ ฟรานเวิดท์ เขาถูกลืมจากวงการโทรทัศน์
ไม่มีใครสนใจ เขาเสียชีวิตปี 1970 ในวัย
64 ปี ด้วยอาการตรอมใจ ช่วงสุดท้ายของชีวิต
เขาบอกลูกหลานและคนรู้จักว่า ไม่ให้กล่าวถึงโทรทัศน์ต่อหน้าเขา
ส่วนซานอฟฟ์ยังโด่งดังอยู่กับโทรทัศน์ที่เขาทุ่มเทให้ทั้งชีวิต
พร้อมกับนายสวารีกิน เพื่อนซี้ของ |