ธรรมชาติมันเป็นเองเช่นนั้นอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
กลับมาที่ความพยายามค้นหาคำตอบของสิ่งที่บริหารหรือควบคุมกฎของจักรวาล
และการเกิดของชีวิต
มนุษย์และจิตวิญญาณอีกที
ที่นอกเหนือจากความบังเอิญซึ่งก็ต้องรวมเรื่องของการคัดเลือกตามธรรมชาติ
และพันธุกรรมศาสตร์เอาไว้ในเรื่องของความบังเอิญด้วย
อย่างน้อยในส่วนที่เป็นปฐมเหตุหรือเป็นปัจจัยแรกเริ่มของการกำเนิดของชีววิทยา
รวมทั้งทฤษฎีของชาร์ลส์ดาร์วินก็เป็นการอธิบายปรากฏการณ์ทางชีววิทยา
และวิวัฒนาการของชีวิตอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุด
และอาจถูกต้องที่สุดเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันหรือแม้ในอนาคต
ทฤษฎีหรือหลักการที่ว่าด้วยปฐมกำเนิดของชีวิตอื่น
ๆ
ที่พูดกันมาในวงการวิทยาศาสตร์ปัจจุบันนี้
ก็มีทฤษฎีของเป้าหมายการสร้างชีวิตขึ้นมาเองด้วยธรรมชาติเอง
ธรรมชาติมันเป็นเองเช่นนั้นอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
(predestinism or predispositionism)
เป็นทฤษฎีที่พอล เดวีส์
ได้เสนอขึ้นมาและก็ไปสอดคล้องกับความคิดของนักวิทยาศาสตร์อื่น
ๆ
อีกหลายคนในหลักการที่สำคัญ
ๆ อย่างหนึ่งอย่างใด
ว่าไปแล้วแม้แต่นักฟิสิกส์จักรวาลที่โด่งดังในปัจจุบัน
คาร์ล ซากัน (Carl Sagan)
เองก็เอนเอียงไปทางหลักการนี้พอลเดวีส์อธิบายว่าด้วยกฎที่เป็นไปเองของธรรมชาติ
เช่นวัฏจักรการเกิดและดับที่ไม่เป็นจริงของจักรวาล
แต่เป็นการระเบิดขยายออกและยุบหดลงมาใหม่ซ้ำซากตามที่เชื่อกันในทุกวันนี้
เช่นเดียวกันที่สสารจะต้องมีการจัดองค์กรของตัวเองที่สลับซับซ้อนยิ่งขึ้นไปเรื่อย
ๆ
จนกระทั่งเป็นชีวิตอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
และเช่นเดียวกันอีกหลังจากนั้น
ที่ชีวิตจะก้าวหน้าต่อไปตามธรรมชาติเป็นสติปัญญาและจิตวิญญาณสูงล้ำต่อไป
ทั้งหมดมันได้ถูกบันทึกหรือกำหนดเอาไว้อย่างซับซ้อนในกฎธรรมชาติ
ในรูปหนึ่งรูปใดที่วิทยาศาสตร์ยังหาไม่พบ
ดังจะเห็นได้ว่าชีวิตได้เกิดขึ้นมาบนโลกในเวลาที่ไม่นานนัก
ไม่กี่ร้อยล้านปีหลังจากที่ได้มีสภาพที่เหมาะสมเกิดขึ้นมาบนโลกก่อนหน้านั้น
และชีวิตที่มีปัญญามาจนเป็นมนุษย์ก็ค่อย
ๆ
วิวัฒนาการขึ้นมาบนหลักการเดียวกันขึ้นมาตามลำดับบนหลักการของการจัดองค์กรตัวเองและหากว่าโลกเราาวพระเคราะห์ดวงหนึ่งของระบบสุริยะ
ที่จิ๊บจ๊อยขี้ปะติ๋วหลิวสามารถมีชีวิตที่พัฒนาได้เช่นทุกวันนี้
ก็ไม่มีเหตุผลใด ๆ
ที่ชีวิตที่พัฒนาได้อย่างเดียวกัน
หรือก้าวหน้าซับซ้อนยิ่งกว่าจะมีขึ้นมาไม่ได้ในโลกภพอื่น
ดาวพระเคราะห์ของระบบดาวดวงอื่น
ๆ
ที่มีอยู่มากมายมหาศาลเกินที่จะพูดออกมาได้นอกจากเขียนเป็นตัวเลข
พอลเดวีส์บอกว่า
ต้องแยกกันให้ได้ระหว่างเป้าหมายของชีวิตที่มีขึ้นมาเองด้วยกฎของธรรมชาติ
(predestinism)
ที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับการถูกกำหนดให้เกิดขึ้นมาของชีวิตโดยสิ้นเชิงกับการถูกกำหนดให้เกิดขึ้นมาของชีวิตโดยสิ่งอื่นใดจากภายนอก
(predeterminism) มันเป็นไปได้จริง ๆ
ในทางวิทยาศาสตร์ที่คุณสมบัติของสสาร
จะมีเนื้อในที่เคลื่อนไหวเพื่อการจัดองค์กรตัวเองได้ตลอดเวลาเหมือนกับว่ามันมี
"จิตวิญญาณของจักรวาลที่ซึมแทรกเป็นส่วนของจักรวาลทั้งหมด
คอยบริหารและควบคุมกฎแห่งธรรมชาติ
ให้ดำเนินไปตามเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง
ธรรมชาติเองเป็นผลผลิตของเทคโนโลยีที่เกิดมาจากการจัดองค์กรตัวเอง
จากนั้นจนเป็นชีวิตเรียบง่ายจนเป็นชีวิตที่ซับซ้อน
ที่กล่าวมานี้ไม่ใช่จะหมายความว่าชีวิตในรูปแบบไหนอย่างไรเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
มันคงต้องมีทิศทางและรูปแบบของการพัฒนาก้าวหน้าต่อไปข้างหน้า
ที่ไม่ใช่เป็นเส้นตรงอย่างหนึ่งอย่างใด
สร้างสรรสิ่งใหม่หรือความน่าอัศจรรย์ใหม่
ๆ
ขึ้นมาได้ตลอดเวลาทั้งหมดด้วยกระบวนการที่เป็นไปตามกฎธรรมชาติที่บันทึกเอาไว้ภายใน
และปัจจุบันนี้หลักการที่ว่านี้ก็เป็นที่ยึดถือในหมู่นักจักรวาลวิทยา
และนักฟิสิกส์ดาราศาสตร์กันมากที่สุด
อย่างไรก็ตามในรายละเอียดของการอธิบาย
ก็ยังมีความแตกต่างระหว่างกันเป็นต้นว่าทฤษฎีการพองตัวของจักรวาล
หลังการระเบิดของบิกแบ็งเกิดขึ้นไม่นาน
เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น
จากความเรียบร้อยสม่ำเสมอจักรวาลก็เปลี่ยนแปลงไปสู่ความไม่ได้ระเบียบตะปุ่มตะป่ำจากการค่อย
ๆ คลี่ขยายตัวอย่างช้า
เป็นการก้าวกระโดดพองตัวซ้ำซ้อนทันทีทันใดที่รวดเร็วยิ่ง
ทั้งหมดก็เป็นเรื่องของการจัดองค์กรตนเองในสิ่งแวดล้อมที่จำเพาะ
เช่นอุณหภูมิและความหนาแน่นของมวลอนุภาคที่แออัดหนาแน่นในช่วงนั้น
หรืออีกความคิดหนึ่งเช่นความคิดของเซอร์
เฟร็ด ฮอยล์ (Sir Fred Hoyle)
นักฟิสิกส์ผู้ก่อตั้งสถาบันฟิสิกส์ทฤษฎีที่เค็มบริดจ์
ฮอยล์คิดว่ากฎต่าง ๆ
มาทีหลังจิตวิญญาณของจักรวาล
เขาเชื่อว่าองค์กรที่เป็นจักรวาลเองเป็นตัวจิตปัญญาที่ยิ่งใหญ่
ที่มีลำดับความสำคัญสูงต่ำไล่ขึ้นไปจนถึงอภิมหาจิตปัญญา
และจิตจักรวาลนี้เองที่ควบคุมบริหารกฎต่าง
ๆ
ของธรรมชาติด้วยการทดลองสร้างสรรชนิดและรูปแบบของวิวัฒนาการขึ้นมาตลอดเวลา
ฮอยล์เชื่อว่าชีวิตไม่ได้เริ่มขึ้นโดยมีธาตุ
คาร์บอนเป็นฐานมาเลย
แต่เป็นซิลิคอนมาก่อน
และก็มีหลักฐานเช่นในเรื่องของผลึกอนินทรีย์
การทดลองนี้เป็นไปทั่วจักรวาลที่ฮอยล์บอกว่า
มีโมเลกุลของสารอินทรีย์เคมีเต็มทั่วจักรวาลและเม็ดพันธุ์ชีวิตที่เป็นสารเคมี
เหล่านี้เองที่เป็นต้นตอของชีวิตบนโลก
|