กระบวนการทัศน์
พาราไดม์ใหม่
กระบวนทัศน์พาราไดม์ใหม่นี้
จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิสัยทัศน์ของวิวัฒนาการของจักรวาลทั้งหมด
วิทยาศาสตร์เดิมและฟิสิกส์กายภาพมองจักรวาลและสรรพสิ่งเช่นเครื่องจักรเครื่องยนต์ที่กำหนดตายตัวด้วยแรงจากภายนอก
สู่วัตถุประสงค์ที่วางไว้อย่างไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นได้
เช่นนาฬิกาหรือรถยนต์ที่วันหนึ่งก็จะต้องเสื่อมสลายลงไป
กฎพลวัตความร้อนหรือเทอร์โมไดนามิคส์อธิบายจักรวาลที่เป็นองค์กรปิด
ที่เริ่มด้วยความไม่ปกติและจบลงด้วยความเสื่อมสลายลงไปทั้งหมดเช่นเดียวกัน
หากพิจารณากฎทั้งสองร่วมกัน
และก็จะเห็นได้ว่าการกำเนิดของสรรพสิ่งเป็นการสร้างขึ้นมาทันทีทันใด
และทั้งหมดทุกชิ้นส่วนมาตั้งแต่เริ่มต้น
หลังจากนั้นแล้วก็ไม่มีการสร้างสิ่งใหม่ใด
ๆ ขึ้นมาอีก
จบเกมกันมาตั้งแต่ต้น
และหลังจากเกิดมาแล้วก็เสื่อมลง
น้อยลง
จนทั้งหมดสลายหมดสิ้นไปจากการหมดต้นทุนความร้อนที่เป็นผลผลิตของตนเองลงไป
นั่นเป็นเรื่องตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับการเกิดการดำรงอยู่และวิวัฒนาการของจักรวาลและสรรพสิ่งตามหลักการแห่งองค์รวมที่ทุกสิ่งเป็นของใหม่ที่ค่อย
ๆ วิวัฒนาการมาตามขั้นตอน
กำหนดหรือทำนายไม่ได้
มันเป็นไปของมันเองโดยไม่มีวัตถุประสงค์เช่นวัตถุหรือผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์และแทนที่จะเดินทางไปสู่ความล่มสลายสูญสิ้นความร้อนจนตัวตาย
มันกลับเกิดขึ้นมาใหม่จากสิ่งเหล่านั้นวิวัฒนาการใหม่ตลอดเวลาเหมือนกับการคลี่ขยายของดอกไม้ในยามรุ่งอรุณ
มันผิดกันเพียงแต่ว่ามันเป็นดอกไม้ที่ซ้อนอยู่ภายในของดอกไม้ที่โตกว่า
ทั้งหมดคลี่ขยายซ้ำซ้อนเรื่อยไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
และกำหนดความสิ้นสุดไม่ได้
จักรวาลจึงไม่สิ้นสุดและไม่มีขอบเขตกำหนดกาลใด
ๆ ทั้งสิ้น
มีแต่โอกาสกับความอิสระ
มีแต่องค์กรที่อิสระที่เกิดอย่างซ้ำซ้อน
มีแต่กระบวนการสรรสร้างใหม่ที่เกิดจากเนื้อในเดิม
องค์กรใหม่ที่เกิดขึ้นมาจากองค์กรเดิมทำนายไม่ได้รวมที่เป็นชีวิต
เป็นจิตวิญญาณ
ทั้งหมดไม่เคยหยุดนิ่ง
ทั้งหมดจะต้องวิวัฒนาการต่อ
ๆ กันไป
ด้วยหลักการเดียวกันตลอดไป
ที่กล่าวมานั้นอาจจะดูเหมือนกับว่ามันเป็นความยุ่งเหยิงวุ่นวายแต่มันก็เป็นความวุ่นวายเช่นเดียวกับที่เป็นกฎแห่งความจลาจลไร้ระเบียบ
(Chaos Theory)
ความยุ่งเหยิงไม่หยุดนิ่งในกฎแห่งการกระจายของพริโกจิน
(Dissipative Theory)
หรือจุดวิกฤตจากสภาพที่ไกล
จากสมดุล (far - from - equilibrium)
หรือทฤษฎีการจัดองค์กรของโมเลกุลของค๊อฟแมน
ทั้งหมดนี้ก็ไม่ต่างกับสภาพที่เรียกว่าซิงกูลาริตี้
(singularity) ในจักรวาลวิทยา
ด้วยเหตุนี้เองเราจึงคุ้นเคยกับสิ่งใหม่
สภาพใหม่
พฤติกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นใหม่หรือวิวัฒนาการขึ้นมาใหม่
อย่างทันทีทันใดอย่างไม่ได้คาดหมายหรือไม่สามารถคาดหมายได้มาก่อน
ไม่ว่าในทางฟิสิกส์และคณิตศาสตร์
ดาราศาสตร์
เคมีและชีววิทยา
ธรณีปัฐพีวิทยาและแม้แต่โบราณวิทยาศาสตร์ฟอสซิลวิทยาหรือวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่น่าอัศจรรย์โดยอธิบายไม่ได้ดังที่เคยเขียนเล่าเอาไว้แล้วในหนังสือของผู้เขียนเล่มอื่น
ๆ
ถ้าหากว่าองค์รวมเป็นเรื่องของความสัมพันธ์เกี่ยวโยงเป็นหนึ่งเดียวกันอันไม่จบสิ้น
เป็นเรื่องขององค์กรที่ซ้ำซ้อนองค์กรระดับที่ต่างระดับ
และการพัวพันระหว่างกันเหล่านั้นล้วนแล้วแต่มีหลักการ
หรือกฎที่บริหารองค์กรหรือระดับนั้น
ๆ
อะไรคือสิ่งที่บริหารองค์รวมให้เป็นเช่นนั้น
?
อะไรที่ทำให้จักรวาลไม่มีเกิดไม่มีดับมีแต่เคลื่อนไหวสรรสร้างสิ่งใหม่
มาจากของเก่าหมุนเวียนต่อเนื่องกันไปเช่นนั้น
และที่สำคัญที่สุด
อะไรที่อยู่เบื้องหลังการกำเนิดและวิวัฒนาการของชีวิต
ของมนุษย์และจิตวิญญาณ?
มันก็มีอยู่หลายคำตอบ
ที่แน่นอนที่สุดเป็นไปตามฟรีวิลล์หรือโอกาสอย่างอิสระของนักวิทยาศาสตร์ของผู้ค้นคว้าหาความจริงทุกคน
ที่มีสิทธิที่จะสร้างเป็นข้อสันนิษฐานหรือสมมุติฐานขึ้นมา
และแน่นอนที่สุดที่จะไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดสามารถให้คำตอบที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่และมีเหตุผลมากน้อยเพียงไร
เพราะเห็นชัดแล้วว่าในเรื่องของจักรวาลและจิตวิญญาณ
ด้วยเนื้อหาของความรู้ใหม่ฟิสิกส์ใหม่โดยเฉพาะแควนตัมเมคานิคส์และทฤษฎีใหม่
ๆ เหนือแควนตัม
ตรรกะและเหตุผลหรือสามัญสำนึก
ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถนำมาใช้ได้อย่างจบสิ้นสมบูรณ์แม้แต่ครั้งเดียว
|