โลกมีชีวิต
แต่ไล่ไปแล้วนักคิดนักวิทยาศาสตร์มากหลายที่คิดแบบนั้นที่ยึดถือว่าโลกทั้งโลกเองโดยธรรมชาติมันก็เป็นองค์กรสิ่งมีชีวิตอย่างแท้จริงเช่น
เจมส์เลิฟล็อค (James Lovelock)
นักเคมีที่มีชื่อเสียงชาวอังกฤษที่บอกว่าโลกมีชีวิตจริง
ๆ
รับรู้ได้บริหารข้อมูลได้จริงเพราะโลกสามารถรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับมัน
และสามารถแก้ไขหรือปรับตัวเองได้มีวิวัฒนาการได้ทั้ง
ๆ
ที่เกิดความพินาศหายนะครั้งแล้วครั้งเล่า
รวมทั้งสามารถจัดองค์กรตนเองในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
ตลอดเวลาจนไม่น่าที่เป็นไปได้หากไม่มีชีวิต
ที่สิ่งไม่มีชีวิตจะบริหารข้อมูลเพื่อการปรับตัวเองได้เช่นนั้น
ถ้าโลกเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิตจริง
ๆ
ซึ่งนั้นก็เป็นลักษณะขององค์กรชีวิตทั่ว
ๆ ไปอย่างแน่นอน
แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้
ก็เป็นสิ่งที่ยังไม่ให้ความกระจ่างชัดเจนอย่างใดว่าจริง
ๆ แล้วชีวิตคืออะไร
ในปี 1944
เออร์วิน
ชโรดิงเกอร์ได้เขียนหนังสือเล่มเล็ก
ๆ เล่มหนึ่งชื่อว่า
ชีวิตคืออะไร
ชโรดิงเกอร์เป็นนักฟิสิกส์แควนตัมที่มีชื่อเสียงมากและได้รางวัลโนเบล
แต่หนังสือที่เขาเขียนเล่มดังกล่าวที่เป็นการตั้งคำถาม
ในเรื่องของธรรมชาติของชีวิต
กลับไปมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อความคิดและจินตนาการของนักเคมีชีววิทยาระดับโลกที่พยายามค้นคว้าวิจัยในช่วงหลายสิบปีมานี้
เพื่อตอบคำถามที่ว่านั้นกัน
ซึ่งทั้งหมดกลายเป็นหัวข้อของการโต้แย้งถกเถียงกันมาจนตราบทุกวันนี้
ตัวอย่างของธรรมชาติของความเป็นชีวิตที่นำมาถกเถียงกันมีดังต่อไปนี้
|