ซุปเปอร์สตริง
ในทำนองเดียวกัน
นักแควนตัมจักรวาลวิทยาส่วนมากเห็นพ้องต้องกันว่ากาแล็คซี่ที่มารวมตัวเป็นกลุ่ม
(clusters and super - clusters)
ต่างสามารถติดต่อกันได้เหมือนกับว่ามีใยที่ประกอบเชื่อมโยงเกี่ยวพันเหมือนร่างแหเป็นพื้นฐานของจักรวาลที่เป็นตัวเชื่อมกาแล็คซี่เหล่านั้นเข้าด้วยกัน
แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันและกัน
คุณสมบัติหรือความสามารถที่อาศัยแต่แรงโน้มถ่วงเพียงอย่างเดียวจะทำเช่นนั้นไม่ได้อย่างแน่นอน
ปัจจุบันมีทฤษฎีและสมมุติฐานทางจักรวาลวิทยาที่กำลังสนใจกันมากก็คือเรื่องของใยมหัศจรรย์หรือซุปเปอร์สตริง
(superstrings)
ที่มีขนาดเล็กละเอียดที่เชื่อมโยงจักวาลที่เป็นสสารวัตถุเข้าด้วยกันเป็นพื้นฐาน
หรือสนามแห่งใยที่ประสานและสรรสร้างที่ว่างเวลาและจิตวิญญาณของจักรวาลและของมนุษย์เข้าด้วยกัน
ที่น่าสนใจก็คือจากผลของการคำนวณพบว่า
ใยมหัศจรรย์นี้มีขนาดเล็กกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของอะตอมในอัตราส่วนของหนึ่งต่อ
10 ยกกำลัง 20
ที่จริงเพียงพูดว่าน่าสนใจเห็นจะไม่พอ
เพราะว่ามันเป็นเรื่องอัศจรรย์พร้อมกันไปด้วย
ลองคิดหรือนึกวาดภาพของอะตอมภาพของคน
ของโลกและของจักรวาลขึ้นมาในใจแล้วก็ลองนึกต่อ
ลองเทียบขนาดกันดูก็จะพบว่าทั้งหมดมันล้วนมีสัดส่วน
เช่นเดียวกันกับสัดส่วนของใยมหัศจรรย์ที่เทียบกับอะตอมดังที่กล่าวมานั้น
นั่นก็คืออะตอมเมื่อเทียบกับคนจะมีสัดส่วนหนึ่งต่อ
10 ยกกำลัง 20 ส่วน
ซึ่งก็เหมือนกันที่เมื่อเอาขนาดของคนไปเทียบกับขนาดของโลกก็จะได้อัตราส่วนหนึ่งต่อ
10 ยกกำลัง 20
และโลกเมื่อเทียบกับจักรวาลก็จะได้อัตราส่วน
10 ยกกำลัง 20 อีกเหมือนกัน
ยังกับว่าทั้งหมดนั้นเป็นนิยายวิทยาศาสตร์หนังการ์ตูนอย่างไรก็ตามเรื่องของใยมหัศจรรย์นี้ก็เป็นสิ่งที่ปรากฏได้จริงในสมการทางคณิตศาสตร์ในวิชาแควนตัมจักรวาลวิทยา
แท้จริงแล้วในการคำนวณทฤษฎีต่าง
ๆ
ทางแควนตัมฟิสิกส์ในปัจจุบันบ่อยครั้งที่ได้มีการนำเอาใยมหัศจรรย์เข้ามาแทนส่วนขยาย
หรือจุดที่อนุภาคเคลื่อนที่หรือกระโดดไปพัวพันกันและกัน
ส่วนขยายคือโมเม็นตัมหรือประจุไฟฟ้า
เช่นในการคำนวณเพื่อพิสูจน์สมการจักรวาลขนานหรือทฤษฎีหลายโลกเป็นต้น
ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งเกินวัตถุประสงค์ของหนังสือเล่มนี้
|