400 ปีกับการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ |
||
ปีที่
|
Louis Nicolas Vauquelin นักเคมีชาวฝรั่งเศส ได้สกัดสารจาก asparagus และเรียกว่า asparagines จัดเป็นการพบสารที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตครั้งแรก ที่เรียกว่า กรดอะมิโน
Rene Theophile Hyacinthe Laennac แพทย์ชาวฝรั่งเศส ได้ประดิษฐ์เครื่องฟังเสียงเต้นของหัวใจที่เรียกว่า stethoscope
Pierre Joseph Pelletier และ Joseph Bienaime Caventou นักเคมีชาวฝรั่งเศสได้ร่วมกันสกัดสารสีเขียวจากพืช และเรียกว่า คลอโรฟิล (Cholrophyll)
George Stephenson นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษ ได้พัฒนารถจักรไอน้ำที่สามารถลากได้ 38 ตู้ด้วยความเร็ว 12 ถึง 16 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์โลกที่มีการโดยสารบนบกที่มีอัตราเร็วกว่าม้าวิ่ง
Georg Simon Ohm นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน ได้ค้นพบกฎของ Ohm คือ ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ผ่านตัวนำแปรผันโดยตรงกับความต่างศักย์และแปรผันกลับกับค่าความต้านทาน
Michael Faraday นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ ได้ประดิษฐ์เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเป็นเครื่องแรก (electric generator) โดยใช้หลักการให้ขอบวงล้อทองแดงผ่านระหว่างขั้วของแม่เหล็กเกือกม้าถาวร ตราบใดที่วงล้อทองแดงยังหมุนผ่านตัดแรงแม่เหล็ก กระแสไฟฟ้าก็ยังคงเกิดอย่างต่อเนื่อง ต่อมาในปี ค.ศ.1832 Faraday ได้ตั้งกฎซึ่งปัจจุบันเรียกว่า Laws of electrolysis ดังนี้ 1. มวลของสารที่ออกมากับ electrode ระหว่าง electrolysis จะเป็นสัดส่วนกับปริมาณไฟฟ้าที่ให้แก่สารละลาย 2. ปริมาณไฟฟ้าที่ให้แก่มวลจะเป็นสัดส่วนกับน้ำหนักอะตอมของธาตุที่ออกมาและเป็นสัดส่วนผกผันกับกำลังที่ใช้รวมกับธาตุ
Anselme Payen นักเคมีชาวฝรั่งเศส ได้รายงานการพบสารจากการสกัดมอลต์ ที่มีคุณสมบัติในการเร่งให้แป้งเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ซึ่งเขาเรียกสารนี้ว่า diastase (ภาษากรีก หมายถึง แยก) ต่อมาภายหลังได้เปลี่ยนเป็น enzyme และต่อมาในปี ค.ศ. 1834 เขาได้ค้นพบ cellulose จากผนังเซลล์
C.S.A Thilorier นักเคมีชาวฝรั่งเศส ได้ทดลองเตรียมคาร์บอนไดออกไซด์เหลวปริมาณหนึ่งให้ไหลไปตามท่อปลายแคบและปล่อยให้ระเหย ซึ่งทำให้อุณหภูมิลดลง การทดลองนี้นับเป็นครั้งแรกที่ทำให้คาร์บอนไดออกไซด์เกิดเป็นก้อนแข็ง ซึ่งมีลักษณะเหมือนก้อนน้ำแข็งจึงเรียกว่า น้ำแข็งแห้ง (dry ice)
Jerardus Johannes Mulder นักเคมีชาวดัทช์ ได้ศึกษาโครงสร้างเคมีของไข่ขาวซึ่งประกอบด้วยโมเลกุลที่ใหญ่กว่าคาร์โบไฮเดรต หรือไขมัน จึงได้สร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ประกอบด้วย คาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน และไนโตรเจน นอกนี้ยังมีการเพิ่มจำนวนของอะตอมของซัลเฟอร์และฟอสเฟต พร้อมกับให้ชื่อว่า โปรตีน (ภาษากรีก หมายถึง ครั้งแรก) Samuel Finely Breese Morse นักศิลปะชาวอเมริกันได้ผลิตตารางตรรกวิทยาของการกระตุ้นไฟฟ้าทั้งสั้นและยาวสำหรับอักษรในจดหมายต่าง ๆ ซึ่งเรียกว่า Mouse code เพื่อใช้ในการส่งโทรเลข
John William Draper นักเคมีชาวอเมริกัน ได้ถ่ายภาพดวงจันทร์ ซึ่งจัดเป็นภาพทางดาราศาสตร์ภาพแรก Charles Goodyear นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน ผู้ค้นพบยางจากการที่เขาพยายามจะเติมซัลเฟอร์ลงในยาง ทำให้เกิดอุบัติเหตุส่วนผสมได้ไปสัมผัสกับเตาที่ร้อนจนไหม้เกรียมกลายเป็นส่วนที่แห้งแต่ยืดหยุ่นได้ จึงทำให้เขาเริ่มเผาส่วนผสมของยางกับซัลเฟอร์จนเป็น vulcanized rubber Kirk Patrick Macmillan ช่างเหล็กชาวอังกฤษ ได้ประดิษฐ์จักรยานคันแรกที่มีล้อหลังใหญ่กว่าล้อหน้าเล็กน้อย หนักและเชื่องช้า
James Braid แพทย์ชาวอังกฤษ ได้ใช้วิธีสะกดจิตคนไข้ทำให้คนไข้ครึ่งหลับครึ่งตื่นและไม่ตอบสนองต่อความเจ็บปวด เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ชื่อเก่า จึงเรียกภาวะนี้ว่า hypnotism (ภาษากรีกหมายถึง นอนหลับ) ต่อมาจึงเป็นคำที่ใช้ในทางการแพทย์
John Benner Lawes นักเกษตรศาสตร์ชาวอังกฤษ ได้จดสิทธิบัตรวิธีการสำหรับโรงงานผลิต superphosphate และปีต่อมาก็ได้ผลิตผลิตภัณฑ์ออกมา จึงเป็นครั้งแรกของการผลิตปุ๋ยเคมี Isambard Kingdom Brunel นักสร้างเรือชาวอังกฤษ ได้ออกแบบเรือทันสมัยลำแรกที่แล่นผ่านแอตแลนติก ชื่อ S.S Great Britain มีความยาว 322 ฟุต มีลูกเรือ 130 คน มีที่นั่ง 360 ที่ในห้องอาหาร และเป็นเรือที่ใช้พลังงานจากไอน้ำ
William Thomas Green Morton ทันตแพทย์ชาวอเมริกันได้ใช้ อีเธอร์ ในการถอนฟัน เมื่อคนไข้นำไปเผยแพร่ Morton จึงได้สาธิตการผ่าตัดที่โรงพยาบาล Massachusettts และได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ค้นพบ ส่วนคำว่า anesthesia หมายถึง ไม่มีความรู้สึก Oliver Wendell Holmes แพทย์ชาวอเมริกันเป็นผู้แนะนำให้ใช้ Elias Howe นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน ได้ประดิษฐ์เครื่องจักรเย็บผ้า และได้รับสิทธิบัตรของเครื่องจักรที่มีช่องตาอยู่ใกล้กับเข็ม ใช้ด้ายสองเส้น และรอยเย็บจะเกิดจากกระสวยในเครื่องจักร |
ของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)
ดร. ชุลีรัตน์ บรรจงลิขิตกุล ฟิสิกส์ราชมงคลขอบคุณครับ
ครั้งที่
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์