2. สมมติฐานของแมกซ์แพลงค์ | ||||||||||||||||
Max Plank นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน
ได้อธิบายปรากฏการณ์เกี่ยวกับการแผ่รังสีของวัตถุต่าง ๆ ได้เสนอสมมติฐานของแพลงค์
(Planks Hypothesis) มีใจความดังนี้ อะตอมที่สั่นหรือเรียกว่าออสซิเลเตอร์
(oscillator) ด้วยความถี่ค่าหนึ่ง (![]() |
||||||||||||||||
|
||||||||||||||||
|
||||||||||||||||
โดยพลังงานของอะตอมที่สั่นจะดูดกลืนหรือแผ่รังสี(คายพลังงาน)
ออกมามีเฉพาะบางค่าเท่านั้น มีลักษณะไม่ต่อเนื่องเป็นก้อนของพลังงาน เรียกว่า
ควอนตัมของพลังงาน (quantum of energy) ดังรูป โดยพลังงานของอะตอมที่ดูดกลืนเข้าไปหรือคายออกมาจะเป็นจำนวนเท่าของ
h![]() |
||||||||||||||||
|
||||||||||||||||
3. ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก | ||||||||||||||||
ในปี ค.ศ.1887 เฮิรตซ์ (Hertz) ได้ทำการทดลองฉายรังสีอัลตราไวโอเลตไปตกกระทบบนผิวโลหะ พบว่ามีอิเล็กตรอนอิสระหลุดออกจากที่โลหะนั้น อิเล็กตรอนที่หลุดจากแผ่นโลหะเรียกว่า โฟโตอิเล็กตรอน (Photoelectrons) และปรากฏการณ์ที่แสงทำให้อิเล็กตรอนหลุดออกมาจากผิวโลหะนี้ เรียกว่า ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก (Photoelectice Effect) | ||||||||||||||||
โดย ผศ.ปรียา อนุพงษ์องอาจ |
||||||||||||||||
อ้างอิง : http://sol.sci.uop.edu/~jfalward/particlesandwaves/particlesandwaves.html
|
||||||||||||||||
|
|
1. ไฟฟ้าสถิต | 2. สนามไฟฟ้า |
3. ความกว้างของสายฟ้า | 4. ตัวเก็บประจุและการต่อตัวต้านทาน |
5. ศักย์ไฟฟ้า | 6. กระแสไฟฟ้า |
7. สนามแม่เหล็ก | 8.การเหนี่ยวนำ |
9. ไฟฟ้ากระแสสลับ | 10. ทรานซิสเตอร์ |
11. สนามแม่เหล็กไฟฟ้าและเสาอากาศ |
12. แสงและการมองเห็น |
13. ทฤษฎีสัมพัทธภาพ | 14. กลศาสตร์ควอนตัม |
15. โครงสร้างของอะตอม | 16. นิวเคลียร์ |
ครั้งที่
การเรียนฟิสิกส์ 2 ผ่านทางอินเตอร์เน็ต